เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยชายแดนไทย-กัมพูชา

ภูมิภาค
9 พ.ย. 56
07:26
70
Logo Thai PBS
เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยชายแดนไทย-กัมพูชา

สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ก่อนวันตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ตำรวจและทหารเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย พร้อมทั้งตั้งด่านควบคุมมวลชนที่จะเข้ามาเคลื่อนไหว โดยไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร

ชาวบ้านภูมิซรอน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เก็บส่งของจำเป็นเพื่ออพยพออกจาพื้นที่หลังไม่แน่ใจในสถานการณ์ระหว่างการตัดสินคดีปราสาทพระวิหารของศาลโลก ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ โดยเฉพาะชาวบ้านที่เคยได้รับผลกระทบจากการสู้รบ ทำให้ต้องเตรียมความพร้อม ซึ่งขณะนี้ได้อพยพผู้สูงอายุ และเด็กออกจากพื้นที่แล้วเพื่อความปลอดภัย

ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนก็ยังคงอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน และใช้ชีวิตตามปกติโดยบอกว่าจะติดตามข่าวสารและการแจ้งเตือนจากผู้นำชุมชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งพวกเค้าอยากให้คำตัดสินของศาลโลกที่จะมีขึ้นเป็นไปในแนวทางที่ดี คือให้ทั้ง 2 ประเทศกลับไปเจรจาเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติ แต่ยังกังวลเรื่องกลุ่มมวลชนที่จะเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์บานปลาย

ส่วนการชุมนุมของกลุ่มธรรมยาตรากอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทยในกรณีเขาพระวิหาร และมณฑลบูรพา ได้รวมตัวที่ศาลหลักเมือง อ.กันทรลักษณ์ พร้อมปราศรัยคัดค้านการตัดสินของศาลโลก ก่อนเตรียมเคลื่อนขบวนไปรวมกับกลุ่มของ นายสมาน ศรีงาม แกนนำกลุ่มธรรมยาตรา ที่นั่งสมาธิอยู่ที่บริเวณทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (9 พ.ย.)

โดยกลุ่มธรรมยาตราจะขอเข้าไปในพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตรบนเขาพระวิหารเพื่อยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในอธิปไตยของไทย ซึ่งหากถูกขัดขวางจากเจ้าหน้าที่ก็จะอดอาหารประท้วง

สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อควบคุมกลุ่มมวลชน ตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า เพื่อดุแลกลุ่มมวลชนที่จะเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ โดยมีการสนธิกำลังตำรวจ 4 สถานี คือสถานีตำรวจภูธรกันทรลักษณ์, สถานีตำรวจบึงมรู, สถานีตำรวจภูธรกุดเสลา และสถานีตำรวจภูธรโดนเอาว์เพื่อตั้งด่านตลอดเส้นทางมุ่งสู่เขาพระวิหาร พร้อมชุดควบคุมฝูงชนอีกกว่า 300 นาย เพื่อรักษาความปลอดภัยหากเกิดการเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุม โดยเตรียมแผนเผชิญเหตุไว้ 3 ขั้นตอน คือจะใช้ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เข้าเจรจา หากไม่ได้ผลก็จะใช้ชุดควบคุมฝูงชน และหากเกิดความรุนแรง จะใช้กำลังทหารมาตรการสุดท้าย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ประเมินว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนจะไม่รุนแรง และจะสามารถเจรจากับแกนนำได้ โดยมองว่าการเคลื่อนไหวเป็นไปในเชิงสัญลักษณ์มากกว่าการที่จะพยายามขึ้นไปบนพื้นที่พิพาท อย่างไรก็ตามกำลังตำรวจทั้งหมดจะอยู่ดูแลรักษาความปลอดภัยจนกว่าจะถึงคำตัดสินคดี


ข่าวที่เกี่ยวข้อง