รัฐบาลฟิลิปปินส์เสริมกำลังทหาร-ตำรวจดูแลความปลอดภัยประชาชน

รัฐบาลฟิลิปปินส์ เสริมกำลังทหาร, ตำรวจ ลงพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ขณะที่ประชาชน เริ่มเข้าซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายแล้ว ส่วนนานาชาติ ยังคงทยอยส่งความช่วยเหลือมาให้ฟิลิปปินส์อย่างไม่ขาดสาย

ความช่วยเหลือจากนานาชาติ ยังคงหลั่งไหลเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้เรือของสภากาชาดอินโดนีเซีย เริ่มออกเดินทางไปเกาะเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งคาดว่า จะใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย 6 วัน ทั้งนี้ถือเป็นการส่งความช่วยเหลือไปต่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย ซึ่งประกอบด้วยอาหาร, อุปกรณ์ทำน้ำสะอาด, อุปกรณ์ลำเลียง, รถพยาบาล, รถบรรทุกน้ำ, หน่วยแพทย์, ช่างเทคนิค และเฮลิคอปเตอร์ โดยทีมงานชุดนี้จะอยู่ในฟิลิปปินส์นาน 6 เดือน

สำหรับประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างที่เมืองปาโล จังหวัดเลย์เต เริ่มสร้างบ้านขึ้นมาใหม่โดยอาศัยวัสดุเท่าที่หาได้ ขณะเดียวกันผู้ประสบภัย ยังต้องอาศัยความช่วยเหลือจากศูนย์บรรเทาทุกข์ ซึ่งแต่ละวัน จะมีประชาชนเข้าแถวเพื่อรอรับความช่วยเหลือจำนวนมาก

แม้ว่าการส่งความช่วยเหลือลงพื้นที่จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงแรกๆหลังพายุไต้ฝุ่น "ไห่เยี่ยน"พัดถล่มตอนกลางของฟิลิปปินส์ แต่ผู้ประสบภัยมองว่า การให้ความช่วยเหลือยังไม่เพียงพอ

นอกจากปัญหาเรื่องความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัยแล้ว ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ก็เป็นปัญหาใหญ่เช่นกัน รัฐบาลกลางได้เพิ่มกำลังทหารและตำรวจ ลงพื้นที่ประสบภัยเพื่อป้องกันการปล้นสดมภ์ และสร้างความมั่นใจว่า การทำงานเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย จะเป็นไปอย่างราบรื่น

ทั้งนี้ตำรวจได้วางกำลังตามเครื่องกดเงินอัตโนมัติ, สถานีบริการน้ำมัน รวมถึงคลังสิ่งของบรรเทาทุกข์ และยังตั้งด่านตรวจทั่วเมือง ตำรวจนายหนึ่งระบุว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานว่า เกิดการปล้นสดมภ์และมีคนละเมิดกฏเคอร์ฟิว ประมาณ 30 คดี และก่อนหน้านี้มีรายงานว่า นักโทษกว่า 180 คน หนีออกจากเรือนจำซึ่งได้รับความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ซึ่งจนถึงขณะนี้ ตำรวจยังไม่สามารถนำตัวกลับมาได้