น้ำท่วม - คลื่นลมแรง จ.นครศรีธรรมราช
ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า แม้คลื่นในวันนี้จะเริ่มสงบลงแล้ว แต่นางราณี มีล่อง ชาวบ้านหน้าศาล อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราชยังคงไม่มั่นใจ เพราะคลื่นที่สูงเกือบ 3 เมตร เมื่อ 2 วันก่อน พัดเอาบ้านของเธอพังเสียหาย เช่นเดียวกับชาวบ้านอีกกว่า 20 หลังริมเขื่อนกั้นคลื่นที่ดูเหมือนว่าจะเคยชินกับความเดือดร้อนไปแล้ว
นางราณี กล่าวว่า ปีนี้คลื่นมาเร็วกกว่าทุกปี และก็ไม่มั่นใจว่าในอีก 2 วันข้างหน้าคลื่นจะสูงกว่าที่เป็นอยู่หรือไม่ หลังกรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่าในอีก 2-3 วันข้างหน้าฝนจะกลับมาจะกลับมาตกหนัก และคลื่นสูงอีกครั้ง
แนวทางป้องกันคลื่นขณะนี้ เจ้าหน้าที่เร่งใช้เครื่องมือหนักเกลี่ยหินขนาดใหญ่เข้ามาสร้างเป็นกำแพงแทนแนวเขื่อนกั้นคลื่นที่พังลงทุกปี ซึ่งสาเหตุที่บริเวณนี้เกิดการกัดเซาะอย่างรุนแรง เนื่องจากการสร้างเขื่อนกั้นคลื่นปากคลองชะอวด แพรกเมือง ทางทิศใต้ของชุมชน ทำให้กระแสคลื่นเปลี่ยนทิศกลับมาสร้างความเสียหายให้ชาวบ้านหน้าศาล ต.หน้าสตน แห่งนี้
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมโดยภาพรวมของ จ.นครศรีธรรมราช เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งจากข้อมูลพบว่าในช่วงที่ผ่านมา มีความเสียหายเกิดขึ้นจากเหตุอุทกภัยรวม 230 ล้านบาท มีผู้เดือดร้อนกว่า 100,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทางการเกษตร และสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะถนนที่เสียหายกว่า 500 เส้นทาง
ทั้งนี้ ไม่ใช่เฉพาะที่ ต.หน้าสตน แห่งนี้เท่านั้น แต่ว่าตลอดชายฝั่งใน อ.หัวไทร รวมถึง อ.ปากพนัง ได้รับความเสียหายจากเขื่อนกั้นคลื่นเหมือนกัน ซึ่งขณะนี้ แนวทางป้องกันของเจ้าหน้าที่ ทำได้เพียงการนำก้อนหินขนาดใหญ่มาวางไว้ เพื่อลดกระแสของคลื่น