ทั่วโลกร่วมไว้อาลัย การถึงแก่อสัญกรรม
นายจาคอบ ซูม่า ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ประกาศข่าวการอสัญกรรมนายเนลสัน แมนเดล่า อดีตประธานาธิบดีจากการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยคนแรก และรัฐบุรุษวัย 95 ปี ให้ชาวแอฟริกาใต้รับทราบ หลังจากที่นายแมนเดลล่า ต่อสู้กับอาการปอดติดเชื้อมานานหลายเดือน
นายซูม่าระบุว่าชาวแอฟริกาใต้ ได้สูญเสียบิดาไปแล้ว และแม้ทุกคนจะทราบว่าวันนี้จะต้องมาถึง แต่ก็ยังคงเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่สำหรับแอฟริกาใต้ โดยรัฐบาลแอฟริกาใต้ จะจัดรัฐพิธีศพอย่างเต็มภาคภูมิ และประกาศลดธงลงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัย
ซึ่งทันทีที่ทราบข่าวอสัญกรรมของนายแมนเดล่า ชาวแอฟริกาใต้ในเมืองโซวีโต้ นครโจฮันเนสเบิร์ก ที่บ้านพักของนายแมนเดล่าตั้งอยู่ ต่างหลั่งไหลออกมาบนท้องถนน เพื่อแสดงความอาลัยแก่อดีตผู้นำนักต่อสู้เพื่อยกเลิกระบอบแบ่งแยกสีผิว
เช่นเดียวกับชาวแอฟริกาใต้ที่เมืองเคปทาวน์ ที่ต่างแสดงออกถึงความเศร้าใจกับข่าวการอสัญกรรมของอดีตประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของประเทศ
ขณะที่ผู้นำและนักเคลื่อนไหวประเทศต่างๆทั่วโลก ต่างร่วมแสดงความอาลัย / ขณะที่นายเอฟ ดับเบิ้ลยู เดอ เคลิร์ก อดีตนายกรัฐมนตรีรัฐบาลแบ่งแยกสีผิวคนสุดท้าย ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพร่วมกับนายแมนเดลล่า ระลึกถึงอดีตคู่เจรจา และระบุว่าเป็นเกียรติที่ได้ร่วมทำงานจนสามารถนำพาประชาธิปไตยมาสู่แอฟริกาใต้
นายบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงแสดงความอาลัย พร้อมสรรเสริญยกย่องนายแมนเดล่า ว่าเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้แก่เขา ทั้งยังเป็นผู้นำที่สร้างตำนานแห่งอิสรภาพและสันติภาพแห่งแอฟริกาใต้
และเพื่อให้เกียรติอย่างสูงสุดแก่อดีตนักต่อสู้ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก ผู้นำสหรัฐฯจึงให้ลดธงชาติอเมริกันเหนือทำเนียบขาวลงครึ่งเสา และคาดว่าเขาจะเดินทางไปร่วมพิธีศพของนายแมนเดล่าด้วย
ด้านเจ้าชายวิลเลียม แห่งราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งได้รับทราบข่าวอสัญกรรมหลังร่วมชมภาพยนตร์ชีวประวัติแมนเดล่า เรื่อง "แมนเดล่า ลอง วอล์ค ทู ฟรีดอม" รอบปฐมทัศน์ ในกรุงลอนดอน แสดงความเสียพระทัย และตรัสว่าแมนเดล่าเป็นบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจและสุดพิเศษ
เช่นเดียวกับนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่แสดงความเสียใจ และบอกว่าแมนเดล่าคือวีรบุรุษแห่งยุค
มีรายงานว่านางอองซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้านของพม่า แสดงความยกย่องนายแมนเดล่า ว่าเป็นผู้ที่ยืนหยัดเพื่อสิทธิมนุษยชน และความเท่าเทียมกันในโลก และเป็นผู้ที่ทำให้ทุกคนได้เข้าใจว่า ไม่ควรมีใครที่ต้องถูกลงโทษเพียงเพราะมีสีผิวที่แตกต่าง ทั้งยังเป็นผู้ที่ทำให้ประชาชนได้ทราบว่า ทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้นได้
เช่นเดียวกับองค์ทะไล ลามะ ที่ตรัสว่าจะทรงระลึกถึงแมนเดล่า ในฐานะชายผู้กล้าหาญ และยึดมั่นในหลักการและจริยธรรมอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ขณะที่ผู้นำจีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และอีกหลายประเทศทั่วโลก ต่างร่วมแสดงความอาลัยกับการสูญเสียของแอฟริกาใต้และของโลก ซึ่งข่าวอสัญกรรมนายเนลสัน แมนเดล่า ได้รับการรายงานไปทั่วโลก