<"">
รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าพบรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อหารือแนวทางการดำเนินคดีกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.ตามที่มีผู้ร้อง ขณะที่ ศอ.รส. เร่งสรุปรายงานผลการตรวจสถานที่ราชการ หลังกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายออกไป
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. เปิดเผยถึงผลการประชุม หลังกองบัญชาการตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้ารายงานผลการตรวจสถานที่การชุมนุมที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และกระทรวงการคลัง ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ได้เคลื่อนย้ายออกมาจากพื้นที่แล้ว
เบื้องต้นพบว่า มีความเสียหาย อาทิ รถ ประตู กล้องวงจรปิด และทรัพย์สินในสำนักงานที่ถูกรื้อค้น และยังพบว่าอุปกรณ์สำนักงานและทรัพย์สินส่วนตัวของเจ้าหน้าที่สูญหาย เช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไม่ต่ำกว่า 20 เครื่อง รวมถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหลายรายการ
สำหรับการติดตามดำเนินคดีพนักงานสอบสวน ตำรวจได้จัดชุดพนักงานสอบสวนไปรับแจ้งความดำเนินคดีในสถานที่ ทั้งศูนย์ราชการและกระทรวงการคลัง โดยยืนยันว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจเก็บลายนิ้วมือและมีภาพจากฮาร์ดดิสก์และภาพตามโซเชียลมีเดีย รวมถึงพยานบุคคลที่สามารถจะดำเนินการผู้กระทำผิดตามกฎหมายได้
ขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีได้มีคำสั่งผ่านวิทยุในราชการ ศอ.รส. ด่วนที่สุดถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ตลอดจนผู้บัญชาการและผู้บังคับการทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ระบุว่า ตลอดช่วงเวลาที่มีการชุมนุม มีการกล่าวโจมตีโฆษณาชวนเชื่อ ให้ร้ายป้ายสีการทำงานของตำรวจ เพื่อทำลายภาพลักษณ์ขององค์กรตำรวจ ให้ประชาชนหมดความเชื่อถือ ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
จึงขอให้ ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระดับ ใช้ภาวะผู้นำ มีความหนักแน่น ไม่หวั่นไหวสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ใต้บังคับบัญชา มีความหนักแน่นในการปฏิบัติหน้าที่อย่างตำรวจมืออาชีพ ยึดหลักกฎหมาย ขั้นตอน และความชอบธรรม เพื่อรักษาเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีขององค์กรตำรวจ ให้เป็นที่ยอมรับของสังคมต่อไป
ส่วนการดำเนินคดีกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. มีรายงานว่า พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อหารือเกี่ยวกับการคดี ซึ่งได้กำหนดแนวทางในการดำเนินคดีไว้ โดยจะรวมคดีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทั่วประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับนายสุเทพเป็นคดีเดียวกันทั้งหมด ในข้อหากบฏ รวมทั้งหารือเกี่ยวกับข้อกฎหมายว่าจะสามารถบรรจุคดีดังกล่าว เป็นคดีพิเศษได้หรือไม่
พล.ต.อ.ชัชวาลย์ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า การหารือดังกล่าวยังไม่มีการดำเนินการอะไรเป็นพิเศษ ทางพนักงานสอบสวนก็ดำเนินการสอบสวนตามหน้าที่ ส่วนจะรวมคดีทั้งหมดของนายสุเทพเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ต้องให้ดีเอสไอเป็นผู้พิจารณา
ด้าน พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ แต่ได้ขอรายละเอียดเกี่ยวกับคดีดังกล่าวเท่านั้น ส่วนจะเข้าข่ายคดีพิเศษหรือไม่ ขอนำข้อมูลกลับไปหารือกับ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอก่อนเสนอเข้าที่ประชุมคดีพิเศษในวันที่ 17 ธ.ค.นี้