รัฐบาลจัดโครงการอาหารถูก ยืนยันไม่ใช่นโยบายหาเสียง

กระทรวงการคลัง ร่วมกับ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม จัดโครงการสนับสนุนอาหารราคาถูก เพื่อช่วยลดค่าครองชีพประชาชนและต้นทุนประกอบอาหารของผู้ค้ารายย่อย

ประธานกรรมการบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวถึงที่มาของโครงการนี้ ว่าสินค้าเกษตรในปัจจุบันมีราคาถูก แต่เมื่อนำไปทำเป็นอาหารปรุงสำเร็จกลับมีราคาแพง ทำให้ทางเลือกในการบริโภคของประชาชนลดลง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อยและปานกลาง

ปัจจุบันมีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 280 ร้าน จำหน่าย 3 เมนูหลัก ราคา 15-25 บาท ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ใช่มาตรการประชานิยม เพื่อรองรับการเลือกตั้ง ขณะที่นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุว่า โครงการจะจำหน่ายวัตถุดิบหลักราคาต่ำกว่าตลาดให้แก่ร้านค้าที่เข้าร่วม เช่น ข้าวสาร 5 กิโลกรัม ถุงละ 70 บาท, แก๊สหุงต้ม ถังละ 289 บาท และน้ำมันพืช ขวดละ 33 บาท คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมโครงการ ประมาณ 500 ราย

ก่อนหน้านี้ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลจะไม่สามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เพราะอาจมีผลผูกพันกับรัฐบาลคณะต่อไป ยกเว้น เศรษฐกิจชะลอตัวลงมาก และเตรียมหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อีกครั้ง ว่าสามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้หรือไม่