นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกตัวเองว่าคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส.ปราศรัยบนเวทีการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เมื่อเวลา 22.00 น.ที่ผ่านมา ขอบคุณมวลชนตลอดเส้นทางที่เคลื่อนขบวนไปเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ ในวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งนอกจากจะตอบรับเข้าร่วมชุมนุมแล้ว ยังช่วยบริจาคเงินเพื่อเป็นค่าอาหารผู้เข้าร่วมชุมนุม หลังจากแกนนำผู้ชุมนุมนุมถูกดีเอสไออายัดบัญชีธนาคาร
นายสุเทพยังได้พูดถึงท่าทีของผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ที่ไปพบกับกตต.วานนี้ (20 ธ.ค.) โดยยังคงยืนยันที่จะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ และไม่ถอนตัวจากตำแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นการท้าทายประชาชน ดังนั้น ทิศทางการต่อสู้ของกปปส. และมวลมหาประชาชนนับจากนี้ไป คือการขับไล่รัฐบาล จนกว่าจะได้รับชัยชนะ และเชื่อว่าการชุมนุมใหญ่วันที่ 22 ธันวาคม จะมีชาวกรุงเทพมหานครและชาวไทยในต่างจังหวัด เข้าร่วมการชุมนุมที่มีจำนวนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
วันเดียวกันนี้ พล.อ.อ.กันต์ พิมานพิทย์ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะประธานกลุ่มนายทหารตำรวจนอกประจำการที่จงรักภักดีต่อสถาบันฯ และยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมด้วย น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ และพ.ท.กมล ประจวบเหมาะ อดีตคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง
พล.อ.อ.กันต์ กล่าวว่าในฐานะประธานกลุ่มนายทหารตำรวจนอกประจำการฯ ได้ติดตามความวุ่นวายของสถานการณ์บ้านเมืองอย่างใกล้ชิดกว่า 1 เดือน มีความเป็นห่วงและหวั่นเกรงว่า เหตุการณ์ครั้งนี้จะบานปลายจนนำไปสู่ความรุนแรงถึงขึ้นเสียชีวิตของประชาชนเพิ่มขึ้นอีก ทหารและตำรวจนอกประจำการ จึงได้ตกลงใจทำหนังสือเปิดผนึกถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกคนเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้แจ้งรัฐบาลให้แก้ไข ก่อนที่สถานการณ์จะบานปลายและสายเกินแก้
อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศยังหวังว่า ผู้บัญชาการเหล่าทัพจะเจรจากับรัฐบาล เพราะความเป็นกลางคงเป็นไปไม่ได้สำหรับทหาร ต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเลือกที่จะอยู่บนความถูกต้อง เมื่อไม่ถูกต้องแล้วจะวางตัวเป็นกลางไม่ได้ แต่หากผู้บัญชาการเหล่าทัพไม่ทำตามข้อเสนอ ก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้ แต่หวั่นเกรงว่าเหตุการณ์จะรุนแรงขึ้น