ปี 57 ปีแห่งการพลิกโฉมวงการโทรทัศน์สู่ระบบดิจิตอล

เศรษฐกิจ
25 ธ.ค. 56
14:34
95
Logo Thai PBS
ปี 57 ปีแห่งการพลิกโฉมวงการโทรทัศน์สู่ระบบดิจิตอล

ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป วงการอุตสาหกรรมโทรทัศน์ของไทย จะพลิกโฉมครั้งสำคัญ ในรอบเกือบ 60 ปี ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้บริโภคมีช่องทางในการรับสื่อเพิ่มมากขึ้น จากที่เคยรับชมฟรีทีวีเพียงแค่ 6 ช่อง ยังจะเห็นความคึกคักของธุรกิจโทรทัศน์ แต่ยังมีการตั้งคำถามถึงการควบคุมเนื้อหารายการ ซึ่งหน่วยงานตรวจสอบอย่าง กสทช.จะต้องทำงานให้เข้มข้นมากขึ้น

ระหว่างวันที่ 26-27 ธันวาคม กสทช. จะจัดให้มีการประมูลทีวีดิจิตอล 24 ช่อง รอบแรกพรุ่งนี้ จะเปิดประมูล 2 ประเภท คือ ช่องรายการทั่วไป ความคมชัดสูง (HD) 7 ช่อง และช่องรายการทั่วไป ความคมชัดมาตรฐาน (SD) 7 ช่อง และในวันที่ 27 ธ.ค. จะประมูลช่องรายการข่าว 7 ช่อง และช่องรายการเด็กอีก 3 ช่อง

หลังการประมูลสิ้นสุด เบื้องต้น กสทช.ประเมินว่าผู้ประกอบการที่ประมูลได้ จะเริ่มออกอากาศได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งนับว่าจะเป็นการพลิกโฉมวงการโทรทัศน์ของไทย ที่ผู้บริโภคจะมีช่องทางในการรับสื่อมากยิ่งขึ้น

แม้ว่าแนวโน้มธุรกิจจะดูสดใส โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ว่าธุรกิจในวงการโทรทัศน์ปีหน้า จะมีความโดดเด่นเป็นอันดับ 3 รองจากธุรกิจด้านความงาม และธุรกิจเทคโนโลยีสื่อสาร ที่เกี่ยวเนื่องกับ 3จี แต่ก็ยังมีการประเมินปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะบุคคลากรในวงการที่อาจจะไม่เพียงพอ รวมถึงการกำกับดูแลในด้านของเนื้อหา และโฆษณา ซึ่ง กสทช.จะเป็นหน่วยงานหลักในการควบคุม

นายธีรพล เห็นว่า กสทช.จะคงต้องเข้มงวดในการตรวจสอบข้อมูลมากขึ้น โดยเฉพาะคุณภาพรายการ และโฆษณาสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานหรือ โฆษณาแฝง เพื่อไม่ให้เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค

ในส่วนของการรับชม ผู้ชมยังไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องรับโทรทัศน์ใหม่ ซึ่งขณะนี้มีราคาค่อนข้างสูง ตั้งแต่หลักหมื่น จนแตะหลักแสนบาท แต่สามารถติดตั้งด้วยอุปกรณ์เสริม ที่เรียกกันว่า SET TOP BOX ที่มีราคาหลักพันบาท

ปีแรกการรับชมทีวีดิจิตอล จะครอบคลุมพื้นที่ร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 3 ปี คนไทยทั้งประเทศจะสามารถรับชมทีวีดิจิตอล ที่มีคุณภาพสัญญาณสูง มีจำนวนช่อง เนื้อหารายการ หลากหลาย และมีลูกเล่นมากขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า หลังการประมูลทีวีดิจิตอล และออกอากาศในไตรมาสแรกของปีหน้า อาจทำให้ มูลค่าตลาดรายการขายของตามสื่อทีวี เพิ่มขึ้นร้อยละ 20-25 คิดเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท มูลค่าตลาด SET TOP BOX และเครื่องรับโทรทัศน์รุ่นใหม่ 40,000 ล้านบาท และ ธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ 30,000 ล้านบาท


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง