EU เตรียมตรวจเข้มผักไทย เริ่ม 25 ม.ค.นี้
“นิวัติ” ผอ.มกอช. เตือนผู้ประกอบการไทยให้เร่งแก้ไขปัญหาสารตกค้างในสินค้าถั่วฝักยาว ผักตระกูลกะหล่ำ และตระกูลมะเขือ เนื่องจาก EU จะเพิ่มความเข้มงวดในการสุ่มตรวจสินค้าไทยตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.53 เป็นต้นไปนายนิวัติ สุธีมีชัยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา สหภาพยุโรป (อียู) ได้แจ้งเตือนเรื่องการตรวจพบปัญหาสารตกค้างในสินค้าพืชผักที่นำเข้าจากประเทศไทยอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น อียูจึงได้ออกกฎระเบียบที่ 669/2009 กำหนดให้เพิ่มระดับความเข้มงวดในการควบคุมสินค้าอาหารและอาหารสัตว์นำเข้าบางประเภท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2553 เป็นต้นไป ในสินค้าถั่วฝักยาว ผักตระกูลกะหล่ำ และตระกูลมะเขือ ที่ส่งออกจากไทย โดยจะถูกกัก ณ ด่านนำเข้าของอียู เพื่อสุ่มตรวจสารกลุ่มออแกโนฟอสเฟตในระดับ 50% จากเดิมที่สุ่มตรวจเพียง 10% และอียูจะทบทวนมาตรการนี้ทุก 4 เดือน โดยจะขึ้นอยู่กับรายงานผลการสุ่มตรวจคุณภาพสินค้าผักทั้ง 3 ชนิด
นายนิวัติเตือนผู้ประกอบการไทยด้วยว่า อยากให้เร่งแก้ไขปัญหาสารตกค้างในพืชผัก 3 ชนิดดังกล่าว มิฉะนั้น ในอนาคตอาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าพืชผักไป EU ได้ เนื่องจากสินค้าจะถูกกัก ณ ด่านนำเข้าจนกว่าจะได้รับผลการตรวจยืนยันจากห้องปฏิบัติการ โดยด่านจะใช้เวลาตรวจสอบเอกสาร 2 วัน ก่อนส่งตัวอย่างสินค้าไปตรวจที่ห้องแล็บ ซึ่งค่าใช้จ่ายของการตรวจสอบจะเป็นภาระของผู้นำเข้า อีกทั้งยังต้องใช้แบบฟอร์มการนำเข้าตามที่กำหนดไว้ในกฎระเบียบด้วย ถ้าสินค้าไม่มีปัญหา EU จึงจะอนุญาตให้นำเข้าได้