ทหารไทย-กัมพูชาร่วมหารือกันหลัง 2 ฝ่ายเกิดการปะทะ
ผู้นำกองกำลังทหารไทย และ กัมพูชาเรียกทหารกลับฐานปฎิบัติการพร้อมกำชับทหารทั้ง 2 ฝ่าย ต้องประสานผู้บังคับบัญชาก่อนออกลาดตระเวนทุกครั้งหลังเกิดการปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา
พ.อ.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม เสนาธิการทหารกองกำลังสุรนารี และพ.อ.ธวัชชัย แจ้งประจักษ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23 เข้าเจรจากับพล.ท.สรัย ดึก แม่ทัพภูมิภาคสนับสนุนที่ 4 ของกัมพูชา ที่กองร้อยทหารพรานจู่โจม 959 หรือ ฐานปฏิบัติการซำแต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพราะเกิดการปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา ขณะลาดตระเวนบริเวณหนองใหญ่ ห่างจากปราสาทพระวิหาร ไปทางตะวันออก ประมาณ 15 กิโลเมตรเมื่อเช้าวานนี้
พ.อ.ธเนศ เปิดเผยว่า สาเหตุการปะทะกัน เนื่องจากความเข้าใจผิดของทหารกัมพูชาว่า จะมีการลุกล้ำเขตแดนของทหารไทยจึงยิงกันประมาณ 10 นาทีแต่ไม่มีทหารของทั้ง 2 ฝ่ายบาดเจ็บ
เบื้องต้นการเจรจามีข้อตกลงร่วมกันคือให้ทั้ง 2 ฝ่าย เรียกทหารของตัวเองกลับฐานปฎิบัติการ และหากจะมีการจัดชุดลาดตระเวน จะต้องมีการประสานงานระหว่างผู้นำกองกำลังทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อป้องกันการเข้าใจผิด
ก่อนหน้านี้ นายทหารของทั้งสองฝ่ายต่างออกมาระบุว่าต่างฝ่ายต่างเป็นผู้รุกล้ำดินแดน พล.ต.กนก เนตระ คเวสนะรองแม่ทัพภาคที่สอง ยืนยันว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากชาวกัมพูชาชามักลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงบริเวณชายแดนที่อยู่ลึกเข้ามาในเขตแดนไทย จนมีการปะทะกันบ่อยครั้งแต่ครั้งนี้มีกำลังติดอาวุธช่วยคุ้มกัน
ขณะที่พล.อ.เจียดารา รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกัมพูชา อ้างว่า เหตุปะทะเกิดจากทหารไทย รุกล้ำเข้ามาในแนวเขตแดนของกัมพูชา