นายกฯย้ำขอซื้อดาวเทียมไทยคมคืน เป็นเรื่องความมั่นคง
นายกรัฐมนตรีเผยเหตุรัฐบาลเตรียมขอซื้อดาวเทียมไทยคมคืนจากเทมาเสก เพราะเป็นเรื่องของความมั่นคง โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังและกระทรวงไอซีทีดำเนินการต่อ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมขอซื้อดาวเทียมไทยคมจากกลุ่มเทมาเสกว่า เป็นเรื่องของความมั่นคง และในช่วงที่มีการขายไปนั้น ได้กระทบต่อความรู้สึกของคนไทย ซึ่งหากสามารถนำกลับมาเป็นของประเทศไทยได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องรายละเอียดว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ ซึ่งทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย โดยกระทรวงการคลังและกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่นายกรณ์ จาติกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายศิริโชค โสภา ส.ส.จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ไปดำเนินการเจรจากับเทมาเสกว่า ตนเองไม่ทราบรายละเอียดที่พูดคุย แต่ทราบว่าเป็นการชี้แจง และขอความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากบริษัทที่สิงคโปร์ไม่ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ส่วนกรณีที่มีการมองว่า การเปิดเผยเรื่องการซื้อหุ้นทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น อาจทำให้มีผู้ได้รับผลประโยชน์นั้น นายกรัฐมนตรียืนยันว่า หากพบว่ามีผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยไม่ชอบ ก็จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวว่า การออกกฎหมายนิรโทษกรรมจะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และสภาฯ แต่ขณะนี้เป็นเพียงการพิจารณาของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติ แต่ยืนยันว่าการดำเนินการใดก็ตาม หากนำไปสู่ปัญหาในอนาคต ก็จะไม่ทำ
ส่วนการที่ ครม. ตั้งสำนักขึ้นมาดูแลเว็บไซต์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เพื่อสนับสนุนแนวทางการปรองดอง ทั้งนี้ ตนได้เน้นย้ำให้รัฐมนตรีดูแลเรื่องการใช้สื่ออินเตอร์เน็ต ซึ่งไม่อยากให้มีการปิดกั้นหรือปิดเว็บไซต์ แต่อยากให้คนทำมีกติกา มีความรับผิดชอบต่อสังคม
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงการเดินหน้าแผนปรองดองแห่งชาติ โดยยอมรับว่า เป็นเรื่องยาก แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการ โดยจะพยายามแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย แม้รู้ว่ามีบางกลุ่มปฏิเสธ ซึ่งยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าวต้องมีความคืบหน้า
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงที่ดินเขาแพง ที่สมุย ที่มีนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้องหลายคนว่า ทราบว่ามีการยื่นให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตรวจสอบแล้ว ซึ่งจะต้องรอผลการตรวจสอบก่อน อย่างไรก็ตามยืนยันว่า กฎเหล็ก 9 ข้อยังใช้ได้อยู่