รัฐบาลยันเปิดพิมพ์เขียวแผนปรองดอง 1 ม.ค.54
รัฐบาลจะเปิดพิมพ์เขียวแนวทางปฏิรูปประเทศไทย 1 ม.ค.54 โดยจะเร่งให้คณะกรรมการชุดต่างๆ ที่ดำเนินการเกี่ยวกับแผนปรองดองได้ข้อสรุปโดยเร็ว ส่วนการลงพื้นที่รับฟังเสียงของประชาชนจะเริ่มต้นจากเวทีการประชุมสมัชชาแห่งชาติวันพรุ่งนี้ ก่อนจะลงพื้นที่ไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแผนปฏิรูปประเทศไทยของรัฐบาลว่า จะประกาศพิมพ์เขียวได้ในวันที่ 1 ม.ค.54 ไม่ใช่ 1 ธ.ค.53 ตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้
สำหรับความคืบหน้าในขณะนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติกำลังสำรวจความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาของประเทศ รวมถึงความต้องการในด้านต่างๆ ของประชาชน โดยจะเริ่มลงพื้นที่ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ และคาดว่าจะจัดทำเสร็จภายใน 2 สัปดาห์
ส่วนเวทีรับฟังความเห็นจากประชาชน จะเริ่มต้นจากการประชุมสมัชชาแห่งชาติในวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย.) และจะกระจายไปยังเวทีต่างๆ เช่น เวทีอธิการบดี, เวทีท้องถิ่น, เวทีกำนันผู้ใหญ่บ้าน
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการตามแผนปรองดองนั้น ในสัปดาห์หน้า นายคณิต ณ นคร ในฐานะประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ จะเสนอรายชื่อคณะกรรมการ รวมถึงอำจหน้าที่ เพื่อขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
ขณะที่นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้น เบื้องต้นมีกรรมการร่วมแล้ว จำนวน 19 คน ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการครั้งแรกในวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล
สำหรับกรอบการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ จะต่อยอดจาก 6 ประเด็น ที่คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสนอไว้ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาในการศึกษาและสรุปข้อมูล 4 เดือน ก่อนจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ
ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการมอบหมายให้สถาบันอุดมศึกษาทำแผนกิจกรรมสร้างความปรองดองในกลุ่มนักศึกษา บุคลากร และชุมชนโดยรอบสถาบัน และให้นำกลับมาเสนอต่อนายกรัฐมนตรี
นายไชยยศ จิรเมธากร รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า กระทรวงฯ มีแผนงานให้สถาบันอุดมศึกษาบรรจุวิชาความเป็นพลเมืองเป็นวิชาบังคับในหมวดการศึกษาทั่วไปของทุกมหาวิทยาลัย พร้อมเตรียมตั้งสมัชชานักศึกษา เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มเยาวชนได้นำเสนอแนวทางปรองดองอย่างมีส่วนร่วม
ด้านกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) จะจัดตั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.) โดยจะมีภารกิจสำคัญในการเฝ้าระวังภัยจากการใช้เทคโนโลยี และเป็นศูนย์กลางในการป้องกัน ปราบปราม สืบสวน และประสานความร่วมมือจับกุมผู้กระทำความผิด รวมถึงปกป้องสถาบันด้วย