“อิกัวอิน” ซัดแฮททริคเป็นคนแรกในบอลโลก 2010
กอนซาโล่ อิกัวอิน กลายเป็นนักเตะคนเเรกในฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่สามารถทำแฮททริคได้
การแข่งขันฟุตบอลโลกเกมที่ 2 ของกลุ่มบี อาร์เจนติน่า ที่ชนะมาในเกมเเรก พบ เกาหลีใต้ ที่ชนะมาเช่นเดียวกัน เล่นที่สนามซ็อคเกอร์ ซิตี้ ท่ามกลางกองเชียร์กว่า 80,000 คน โดยเริ่มเกมมาได้ถึงนาทีที่ 16 อาร์เจนติน่า มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ พาร์ค ชู-ยอง ก่อนที่ อาร์เจนติน่า จะมาได้ประตูนำเป็น 2-0 ในนาทีที่ 33 จากลูกโหม่งของ กอนซาโล่ อิกัวอิน กองหน้าจากรีล มาดริด เเต่ในช่วงท้ายครึ่งเเรกเกาหลีใต้ได้ประตูตีไล่ตามมาเป็น 1-2 จากอี ชุง-ยอง
ส่วนในช่วงครึ่งหลัง อาร์เจนติน่า ยังเน้นเกมรุก เเละมาได้ประตูนำห่างเป็น 3-1 ในนาทีที่ 77 จากจังหวะที่เมสซี่ ยิงบอลไปชนเสา ก่อนกระดอนมาเข้าทาง อิกัวอิน ยิงซ้ำเข้าไป และถัดมาเพียง 3 นาที อากุยโร่ ลูกเขยของมาราโดน่าที่ลงเป็นตัวสำรอง ก็มาโหม่งชงให้ กอนซาโล่ อิกัวอิน โหม่งบอลเข้าประตูไป เป็นแฮทริคเเรกในการเเข่งขันฟุตบอลโลกปีนี้ ส่งผลให้อิกัวอินขึ้นนำเป็นดาวซัลโวที่ 3 ประตู จบเกมอาร์เจนติน่า ชนะ เกาหลีใต้ไป 4-1 ผูกปีชนะเกาหลีใต้ได้ 3 เกมรวด
ส่วนอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน เป็นการพบกันระหว่างไนจีเรีย กับ กรีซ เล่นที่สนามฟรีสเตท หลังจากเริ่มเกมมาได้ 16 นาที ไนจีเรีย ได้ประตูนำก่อน 1-0 จากลูกฟรีคิ๊กของ คาลู อูเช ก่อนที่จุดเปลี่ยนของเกมจะเกิดขึ้นในนาทีที่ 33 เมื่อ ซานี เคอิตา ไปแสดงอาการลักษณะใช้เท้ายันใส่ วาซิลิส โทโรซิดิส ที่พยายามบังบอลให้ออกข้าง ทำให้ ออสการ์ รุซ ผู้ตัดสินชาวโคลัมเบียควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที หลังจากนั้นในนาทีที่ 44 กรีซตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่ ซัลปินจิดิส ยิงบอลไปแฉลบ ลุคเเมน ฮารูนา เปลี่ยนทางเข้าไป
และกรีซ ได้พลิกขึ้นนำ 2-1 ในนาที่ 71 จากจังหวะที่ อเล็กซานดรอส ซิโอลิส ยิงไกล เอ็นเยียมา รับบอลกระฉอกมาเข้าทางให้ วาซิลิส โทโรซิดิส แปเข้าไป จบเกม กรีซ ชนะไป 2-1 เก็บ 3 เเต้มเเรกได้ในประวัติสาสตร์ รวมทั้งทำสถิติยิงประตูได้เป็นเกมเเรก ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย พร้อมขยับมาอยู่ที่ 3 และยังมีลุ้นในการผ่านเข้ารอบ ไนจีเรีย เเพ้ 2 เกมรวด มีโอกาสตกรอบสูง ส่วนอาร์เจนติน่า เก็บได้ 6 เเต้มเต็มนำเป็นจ่าฝูง เกาหลีใต้ มี 3 คะแนน อยู่ที่ 2 และเกมสุดท้ายของรอบเเรก กรีซ ต้องพบ อาร์เจนติน่า ไนจีเรีย พบ เกาหลีใต้ ในวันพุธหน้า
ส่วนคู่สุดท้าย เกมที่ 2 ในกลุ่มเอ ฝรั่งเศส อดีตเเชมป์โลก พบ เม็กซิโก เล่นที่สนามปีเตอร์ โมโคบา ซึ่งในเกมนี้เป็นฝั่งเม็กซิโก ที่อาศัยความเร็วของเเนวรุกเล่นงานฝรั่งเศส และมาได้ประตูพลิกขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 64 จากลูกหลุดกับดักล้ำหน้าของ ฮาเบียร์ เฮอร์นานเดซ ซูเปอร์ซับจากเเมนฯยูไนเต็ด หลังจากนั้น เกมของฝรั่งเศสยังไม่ดีขึ้น ก่อนที่เอริค อบิดัล จะพมาเสียบสกัด พาโบล บาเรร่า ล้มลงในเขตโทษ เเละกรรมการเป่าเป็นจุดโทษ ควาเตม็อก บล็องโก้ กองหน้าวัย 37 ปี รับหน้าที่สังหารไม่พลาด จบเกมเม็กซิโก พลิกชนะฝรั่งเศสได้เป็นครั้งเเรกในประวัติศาสตร์
ฝรั่งเศส เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนน เท่ากับจ่าฝูงอุรุกวัย แต่เม็กซิโก รั้งอันดับ 2 หลังมีประตูได้เสียเป็นรอง 1 ลูก ส่วนฝรั่งเศส เก็บได้เพียงเเต้มเดียว อยู่อันดับ 3 ต้องไปตัดสินชะตากับเเอฟริกาใต้ในเกมสุดท้าย และต้องลุ้นให้คู่เม็กซิโกกับอุรุกวัย มีผลเเพ้ชนะ จึงจะมีโอกาสผ่านเข้ารอบ หากสามารถชนะเจ้าภาพเเอฟริกาใต้ เนื่องจากตามกฏฟีฟ่าจะใช้ประตูได้เสียตัดสินการเข้ารอบหากมีคะแนนเท่ากัน โดยเกมสุดท้ายกลุ่มนี้จะเล่นในวันอังคารที่ 22 มิถุนายนนี้