ครม.เห็นชอบ 3 มาตรการลดผลกระทบค่าเงินบาท

ครม.เห็นชอบ 3 มาตรการลดผลกระทบค่าเงินบาท

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ 3 มาตรการ เพื่อลดผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท

มติครม. เห็นชอบ 3 มาตรการลดผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท คือ มาตรการชะลอ capital inflow, มาตรการชะลอ capital inflow และมาตรการช่วยเหลือ เอสเอ็มอีผู้ส่งออกที่จะได้รัผลกระทบ
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ 3 มาตรการ เพื่อลดผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท คือ 1) มาตรการชะลอ capital inflow คือการยกเลิกยกเว้นการจัดเก็บภาษี 15% จากกำไรและดอกเบี้ยในพันธบัตรที่ถือโดยนักลงทุนต่างชาติที่เป็นธุรกรรมใหม่ ซึ่งครอบคลุมพันธบัตรรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

2) มาตรการส่งเสริม capital outflow ด้วยการ ให้หน่วยงานรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนที่ใช้เงินตราต่าง ประเทศและจัดซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (ฟอร์เวิร์ด) และ3) มาตรการช่วยเหลือ เอสเอ็มอีผู้ส่งออกที่จะได้รัผลกระทบ โดยจะให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ibank) ธนาคารเพื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs Bank) และ ธนาคารกรุงไทย(KTB) สนับสนุนให้เอกชนทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน

ทั้งนี้ มาตรการชะลอการลงทุนด้วยการให้หักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับพันธบัตรรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติ จะมีผลเฉพาะผู้ที่มาลงทุนใหม่ แต่ผู้ที่ลงทุนไปแล้ว จะยังคงได้รับการยกเว้นภาษีเช่นเดิม จึงเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการถอนเงินลงทุนจากตลาดตราสารหนี้ไทย และไม่เป็นการเพิ่มภาระ แต่จะเกิดความเท่าเทียมกันระหว่างนักลงทุนต่างชาติกับของไทย

ส่วนมาตรการส่งเสริมการลงทุนของผู้ประกอบการไทยกระทรวงการคลังต้องการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยลงทุนเพิ่มขึ้น เพื่อยกระดับธุรกิจและลดต้นทุน ด้วยการลงทุนซื้อสินค้าทุนนำเข้าจากต่างประเทศ ในช่วงที่ค่าเงินบาทแข็งตัว โดยกระทรวงการคลัง จะมีแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนประมาณ 50,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการไทย สำหรับมาตรการสุดท้าย เพื่อลดความเสี่ยงให้ผู้ส่งออก ผู้ประกอบการรายเล็ก ในการทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินของรัฐ รายละไม่เกิน 500,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 15,000,000 บาท