รมว.คมนาคมยืนยันเครื่องบินไปประกอบพิธีฮัจญ์โปร่งใส
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมยืนยันว่าการนำสายการบินต่างชาติมาให้บริการคนไทยที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นไปอย่างโปร่งใส หลังมีกระแสข่าวว่ามีการแสวงหาผลประโยชน์ในเรื่องนี้
ผู้แสวงบุญเกือบ 500 คนที่ตกค้างที่สนามบินนานาชาติอ.หาดใหญ่ จ.สงขลาตั้งแต่วานนี้ออกเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดิอาระเบียหลังสายการบินมาฮานแอร์แก้ปัญหาเรื่องเอกสารเป็นที่เรียบร้อย
นายอนุรักษ์ วันแอเลาะ เลขาธิการสมาคมผู้ประกอบกิจการฮัจย์ ระบุว่า สายการบินที่เข้ามาร่วมส่งผู้โดยสารไปประกอบพิธีฮัจญ์ ทั้งมาฮานแอร์ และอิหร่านแอร์ผ่านความเห็นชอบจากหน่วยงานของภาครัฐแล้ว แต่ก็ยังประสบปัญหาเครื่องไม่สามารถออกได้ตามกำหนดเวลา
ทั้งนี้เบื้องต้นคาดว่า ปัญหาเกิดจากผู้ประกอบการสมรู้ร่วมคิดกับสายการบินหาผลประโยชน์จากผู้แสวงบุญ ทั้งที่เป็นการกระทำที่ขัดกับมติคณะรัฐมนตรีที่อนุญาตเฉพาะสายการบินไทยเท่านั้นที่รับผิดชอบส่งผู้แสวงบุญ
โดยเชื่อว่า มีผู้อยู่เบื้องหลังกดดันให้กรมการบินพลเรือนอนุญาตให้ทั้ง 2 สายการบินดำเนินการได้ทั้งที่การบินไทยไม่อนุญาต
โดยปัญหาที่เกิดขึ้นนายนิพิฎฐ์ อิทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ยืนยันว่า มติคณะรัฐมนตรีให้การบินไทยเป็นผู้ได้รับสิทธิขนส่งชาวไทยมุสลิมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ นครเมกกะ เพียงรายเดียว แต่ปรากฎว่า มีบางคนได้นำเครื่องบินจากต่างประเทศออกมาให้บริการแต่ซาอุดิอาระเบียไม่ยอมให้บินเข้าประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวในรายการทันข่าวเด่นทีวีไทย 17.00 น.ระบุชัดเจนว่า การเปลี่ยนสายการบินทำให้มีผู้ได้รับผลประโยชน์มากถึง 30 ล้านบาท
เช่นเดียวกับนายสมัย เจริญช่าง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องรัฐบาลจัดการกับบริษัทที่เข้ามาดูแลผู้แสวงบุญ เพราะมีการจัดเก็บอัตราค่าโดยสารในราคาการบินไทย แต่มาใช้บริการสายการบินต้นทุนต่ำ
นายโสภณ ชี้แจงว่าการบินไทยเป็นผู้ประสานงานให้ อิหร่านแอร์ และ บาเรนแอร์เข้ามารับผู้โดยสารที่จะไปแสวงบุญเพราะการบินไทยไม่สามารถรองรับผู้โดยสารจำนวนมากได้ พร้อมยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์เรื่องนี้ แต่อย่างใดส่วนผู้โดยสารที่ตกค้างคือผู้ที่ไม่สามารถขอวีซ่าได้
สำหรับพิธีฮัจญ์ครั้งนี้การบินไทยได้จัดเที่ยวบินพิเศษเพื่อรับ-ส่งผู้แสวงบุญทั้งเที่ยวไปและกลับระหว่างวันที่ 9ต.ค.-11ธ.ค.นี้ 40 เที่ยวบินซึ่งคาดว่ามีผู้เดินทางประมาณ 5,300 คนโดยใช้เครื่องบินแบบ A 330 - 300 ความจุ 295 ที่นั่ง
ขณะที่บริษัทการบินไทย ชี้แจงกับทีวีไทยว่า การให้บริการผู้แสวงบุญเป็นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2548 โดยขอให้การบินไทยเป็นสายการบินหลักจัดเที่ยวบินประเภทเหมาลำขนส่งผู้แสวงบุญพิธีฮัจญ์ จากหาดใหญ่และภูเก็ตไปยังประเทศซาอุดิอาระเบีย
รวมทั้งรับผิดชอบในการกำหนดราคาบัตรโดยสาร กำหนดเที่ยวบินและตารางบินที่สอดคล้องกับระบบที่พักของผู้แสวงบุญ แต่หากการบินไทยไม่สามารถจัดเที่ยวบินได้เพียงพอ ก็อาจพิจารณาให้สายการบินอื่นร่วมจัดเที่ยวบินพิเศษได้โดยผ่านการประสานงานกับกรมการบินพลเรือน