นายกฯ ยืนยันทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือช่วยน้ำท่วม
นายกรัฐมนตรียอมรับถึงข้อบกพร่องในความล่าช้าของการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย เพื่อเป็นศูนย์กลางประสานทุกหน่วยงานในการช่วยเหลือประชาชน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ร่วมกับประชาชนในพื้นที่ชุมชนวัดโพธิ์เลื่อน จังหวัดปทุมธานี ตักทรายบรรจุในกระสอบเพื่อนำไปทำเป็นแนวป้องกันไม่น้ำไหลเข้าท่วมในพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำที่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร อำเภอบางไทร และตรวจคันกั้นน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่วัดพนันเชิงวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยพบว่ามีระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น หลังจากนั้นได้เดินทางไปที่อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน และนั่งเรือไปยังวัดสวนมะม่วงที่มีน้ำสูงกว่า 1 เมตร
ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรียอมรับการท้วงติงถึงความล่าช้าในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยระบุว่า การทำงานย่อมจะมีข้อบกพร่องบ้าง แต่ในภาพรวมขณะนี้ทุกหน่วยงานให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นท้องถิ่นและภาคประชาชน แต่ยังมีความเป็นห่วงในเรื่องเงินช่วยเหลือที่อาจจะรั่วไหลได้
ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดตั้งศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยได้ประชุมร่วมกันที่ทำเนียบรัฐบาล โดยจะเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) เวลา 10.00 น. และจะมีการประชุมในช่วงเช้าและเย็นของทุกวัน นอกจากนี้ จะให้ศูนย์ฯ มีบทบาทร่วมแจ้งเตือนภัยประชาชน โดยประสานงานกับหน่วยงานหลัก ทั้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและกรมอุตุนิยมวิทยา และจะเปิดสายโทรศัพท์ให้ประชาชนได้ร้องเรียนขอความช่วยเหลือผ่านทางสายด่วนหมายเลข 1111 ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่กองทัพภาคที่ 1 โดยทหารกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ลงพื้นที่ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตกรุงเทพมหานครชั้นใน สนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนร่วมกับสำนักงานเขตต่างๆ ทั้งการบรรจุและแจกจ่ายถุงทราย, สนับสนุนรถยนต์บรรทุกและยุทโธปกรณ์ต่างๆ โดยเน้นดูแลจุดเสี่ยงริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตสัมพันธวงศ์, เขตพระนคร, เขตดุสิต และเขตบางซื่อ ซึ่งพร้อมส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง