“นราธิวาส” สรุปเหตุอุทกภัยกระทบ 12 อำเภอ

ภูมิภาค
2 พ.ย. 53
07:56
40
Logo Thai PBS
“นราธิวาส” สรุปเหตุอุทกภัยกระทบ 12 อำเภอ

นราธิวาสสรุปเหตุอุทกภัยกระทบเป็นวงกว้าง 12 อำเภอ ส่งผลให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 42,439 คน ขณะที่พื้นที่การเกษตรเสียหาย 3,265 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนาข้าว สวนยางพารา และลองกอง รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุด สภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ได้หยุดตกลงแล้ว แต่ปริมาณน้ำป่าบนเทือกเขาสันกาลาคีรี ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ในพื้นที่ อ.สุคิริน ได้ไหลทะลักเข้ามาสมทบสู่แม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำสุไหงโกลก บางนรา และแม่น้ำสายบุรี ซึ่งมีปริมาณน้ำล้นตลิ่งสูงกว่า 160 เซนติเมตรอยู่แล้ว ได้เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้น้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฎร และพื้นที่ทางการเกษตรขยายเป็นวงกว้าง 12 อำเภอแล้ว ยกเว้นอำเภอยี่งอที่อยู่ในระหว่างการสำรวจของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

ล่าสุด ศูนย์อำนวยเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จ.นราธิวาส ได้สรุปความเสียหาย และความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมขังมีจำนวนทั้งสิ้น 223 หมู่บ้าน 54 ตำบล ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 11,786 ครัวเรือน รวม 42,439 คน และเจ้าหน้าที่ได้อพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณชุมชนหัวสะพาน เขตเทศบาลเมืองสุไหงโกลก และชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณบ้านบ่อทอง ม.1 ต.ตันหยงมัส รวมทั้งชาวบ้านที่อาศัยอยู่ ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จำนวนทั้งสิ้น 1,126 คน อพยพไปอยู่ตามโรงเรียนต่างๆ และอาคารเอนกประสงค์ของแต่ละพื้นที่อำเภอในเบื้องต้นแล้ว

นอกจากนี้ สภาวะน้ำท่วมยังส่งผลทำให้พื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนาข้าว สวนยางพารา และลองกอง ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายไปแล้ว จำนวน 3,265 ไร่ คอสะพานถูกน้ำกัดเซาะเสียหาย 25 แห่ง ถนนสายหลักซึ่งเป็นเส้นทางไปมาหาสู่ระหว่าง จ.นราธิวาสกับ จ.ยะลาและ จ.ปัตตานี ถูกน้ำท่วมขังและกัดเซาะขอบถนนได้รับความเสียหาย 9 สาย ซึ่งหนักสุดอยู่ในพื้นที่ อ.สุคิริน จำนวน 5 สาย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าฝนจะหยุดตกลงแล้วในขณะนี้ แต่กระแสลมที่พัดกรรโชกแรง ยังส่งผลทำให้ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองนราธิวาสโค่นล้มได้รับความเสียหายไปจำนวน 5-6 จุด

ส่วนด้านความช่วยเหลือขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทหารได้ขับรถยนต์ฮัมวี่หุ้มเกราะลุยน้ำเข้าไปสำรวจความเสียหาย รวมทั้งได้ใช้เป็นพาหนะในการอพยพชาวบ้านมาอาศัยอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ขณะที่องค์การบริหารส่วนตำบลต่างๆ ได้ทยอยนำเรือท้องแบนไปให้ชาวบ้านในแต่ละจุดที่ประสบสภาวะน้ำท่วมไว้ได้ใช้เป็นพาหนะในการเดินทางสู่โลกภายนอกแล้ว


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

-
ข่าวที่เกี่ยวข้อง