กลุ่มสตรีบอสเนียวอน "โจลี" อย่าเปิดแผลเหยื่อสงครามด้วยภาพยนตร์

Logo Thai PBS
กลุ่มสตรีบอสเนียวอน "โจลี" อย่าเปิดแผลเหยื่อสงครามด้วยภาพยนตร์

แม้จะได้รับอนุญาตถ่ายทำในบอสเนีย เฮอร์เซโกวีนาแล้ว แต่ภาพยนตร์ของดาราสาว แองเจลิน่า โจลี ก็ยังได้รับเสียงต่อต้านจากอดีตเหยื่อสงคราม ถือเป็นอีกครั้งที่ภาพยนตร์กลายเป็นชนวนความไม่เข้าใจระหว่างผู้สร้างต่างชาติและคนในประเทศแม้จะยังไม่มีการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ แต่พล็อตเรื่องความรักระหว่างหญิงสาวนักโทษชาวบอสเนียและผู้คุมชาวเซิร์บที่เกิดขึ้นระหว่างสงครามบอสเนียที่ยุติไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ที่เป็นภาพยนตร์ผลงานกำกับครั้งแรกของ แองเจลินา โจลี ได้สร้างความไม่พอใจต่อตัวแทนของกลุ่ม WVW หรือสตรีผู้เป็นเหยื่อทางสงคราม ที่ออกมาเรียกร้องไม่ให้มีการสร้างภาพยนตร์ที่เหมือนเป็นการย้อนอดีตอันขมขื่นของพวกเธออีกครั้ง

โศกนาฎกรรมครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 1992 หลังกองทัพชาวเซิร์บได้ทำการกักขังและทารุณกรรมทางเพศต่อเชลยสตรีชาวบอสเนียเป็นเวลานับเดือน ซึ่งปัจจุบันสตรีเหล่านั้นหลายคนยังต้องเข้ารับการบำบัดทางจิต ไม่เพียงเพราะแผลจากทางกาย แต่จากความเศร้าของการสูญเสียครอบครัวและไร้ที่อยู่ แม้ที่ผ่านมาศาลอาญาระหว่างประเทศจะตัดสินจำคุกอดีตทหารชาวเซิร์บเป็นเวลารวมกันกว่า 500 ปี แต่นั้นยังไม่สามารถทดแทนความสูญเสียต่อเหยื่อสงครามในครั้งนั้นได้

แม้พล็อตเรื่องจะไม่มีการกล่าวถึงฉากทารุณทางเพศ แต่ บากิร่า ฮาเซซิค ผู้นำของกลุ่ม WVW เผยว่าแผนการสร้างผลงานเรื่องนี้จะทำให้ประสบการณ์ที่เลวร้ายในอดีตหวนคืนมาสู่อดีตเชลยสงครามทุกๆ คน

ปัญหาความไม่พอใจของชาวบ้าน โดยมีบริษัทภาพยนตร์ต่างชาติเป็นต้นเหตุ เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง เช่นการขู่ฟ้องร้องของชาวบ้านในประเทศโรมาเนีย ต่อผู้สร้างภาพยนตร์ตลกปี 2006 เรื่อง Borat ในข้อหาถ่ายทอดพวกเขาให้เป็นคนป่าเถื่อน หรือการประท้วง 2 ครั้งในอินเดียเมื่อปี 2007 ที่ชาวฮินดูแสดงความไม่พอใจต่อ Love Guru ภาพยนตร์ตลกในข้อหาลบหลู่ศาสนา และผลงานล่าสุดอย่าง Eat, Pray, Love ที่ไปใช้วัดแห่งหนึ่งใกล้กรุงเดลีเป็นสถานที่ถ่ายทำ จนถูกโจมตีจากชาวบ้านว่าขัดขวางเทศกาล นวราตรี หนึ่งในงานประเพณีประจำปีที่สำคัญที่สุดของศาสนาฮินดู


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

-
ข่าวที่เกี่ยวข้อง