กองสลากฯ คาดโทษขายหวยเกิน 80 บาท เริ่มงวด 16 มิ.ย.นี้
การขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานทุกยุคและเป็นอีกภารกิจที่รัฐบาลชุดนี้พยายามแก้ไขให้ได้ ซึ่งนโยบายแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นและมีมาตรการลงโทษอย่างเข้มงวด ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงมั่นใจว่าสลากฯ ราคาขาย 80 บาททำได้จริง
พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีความมั่นใจว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลตั้งแต่งวดวันที่ 16 มิ.ย.2558 ที่กองสลากฯ จะเปิดจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ (3 มิ.ย.2558) เป็นต้นไป ราคาขายจะอยู่ที่ใบละ 80 บาทเท่านั้น
โดยสำนักงานสลากฯ จะตั้งทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบตามแผงค้าต่างๆ คู่ขนานไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากพบว่าแผงค้าหรือผู้ค้าสลากฯ ขายสลากฯ เกินราคาที่กำหนดไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ทันที เพราะดำเนินการผิดกฎหมายที่ระบุไว้ในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) 2557 ที่ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและหากตรวจสอบว่าเป็นผู้แทนจำหน่ายของสำนักงานสลากฯ ก็จะถูกยกเลิกสัญญาทันทีเพราะการขายสลากฯ เกินราคาถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานสลากฯ ยังได้เรียกตัวแทนรายย่อย คนพิการ มูลนิธิ องค์กร นิติบุคคล เข้ามาทำสัญญาสลากฯ 48 ล้านฉบับ ตามมติคณะกรรมการที่ต่อสัญญาให้กับผู้ค้าสลากฯ เดิมออกไปอีก 6 เดือน ซึ่งเป็นไปด้วยความราบรื่น
ในส่วนการดูแลของต่างจังหวัดได้ขอความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกที่ให้ดูแลและควบคุมราคาสลากฯ ให้ขายในราคาใบละ 80 บาทเช่นกัน โดยเชื่อว่ามาตรการที่ประกาศใช้ ทั้งการปรับเพิ่มรายได้ให้ผู้ค้าและการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ผู้ค้าสามารถรับสลากฯ ตามภูมิลำเนาได้จะช่วยให้ผู้ค้าสลากฯ ขายสลากฯ ได้ตามที่ราคากำหนดไว้
แม้โควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลตามโครงสร้างราคาใหม่จะเพิ่มส่วนลด เพื่อให้ผู้ค้ามีกำไรมากขึ้นและต้นทุนถูกลง แต่ราคาสลากฯ บริเวณแยกคอกวัว ยังคงจำหน่ายฉบับละ 100-120 บาท โดยผู้ค้าสลากฯ ระบุว่า แม้ทำอาชีพขายสลากมากว่า 30 ปี แต่ไม่เคยได้โควต้า จึงต้องรับซื้อจากยี่ปั๊วเช่นเคย แต่พร้อมขายฉบับละ 80 บาทตั้งแต่งวดวันที่ 16 มิ.ย.2558 แม้ต้องรับภาระจากค่าเช่าพื้นที่ขายในราคาสูงมากและเชื่อว่าอาจมีผู้ค้าจำนวนหนึ่งต้องเลิกอาชีพนี้
ขณะที่ผู้ค้าที่ได้โควต้าในย่านสะพานควาย กล่าวว่า แม้โควต้าสลากใหม่ที่ได้รับจะเพิ่มส่วนต่างกำไรให้ผู้ค้ารายย่อย จากฉบับละ 5 บาท 60 สตางค์ เป็น 9 บาท 60 สตางค์ แต่การถูกตัดโควต้าลงเหลือคนละ 5 ฉบับ กดดันให้ต้องซื้อสลากเลขสวยจากยี่ปั๊ว เพื่อจูงใจลูกค้ามาเลือกซื้อสลากภายในร้าน ประกอบกับต้นทุนค่าเช่า ค่าบริหารอื่นๆ ถือว่าผู้ค้ารายย่อยได้กำไรน้อยเกินไปและไม่เพียงพอต่อสภาพค่าครองชีพและภาวะเศรษฐกิจ
ส่วนการยกเลิกรางวัลแจ็กพอตและเลขชุด ทำให้ผู้ค้าต้องเร่งขายสลากเลขไม่สวย หรือใกล้เวลาออกรางวัล ตั้งแต่ใบละ 75 บาทลงมาและอาจเหลือใบละ 3 ใบ 100 บาท