วันนี้ (16 ก.พ.2559) คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานการติดตามพระอาการ ภายหลังการถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระปรอท(ไข้) ตามแถลงการณ์ฉบับที่ 19 ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังมีพระปรอท(ไข้) มีพระอาการเหนื่อย หายพระทัยเร็ว ร่วมกับมีพระชีพจรเร็วเป็นครั้งคราว ผลการตรวจทางพระโลหิต ไม่บ่งชี้ว่ามีการอักเสบจากเชื้อแบคมีเรีย ภาพถ่ายเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของพระอุระ(อก) พระนาภี(ท้อง) และพระสมอง เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559 ไม่พบลักษณะการอักเสบ ส่วนการอักเสบที่พระชานุ(ข้อเข่า) ด้านขวา ดีขึ้น แต่พบการอักเสบที่พระข้ออื่นๆ ผลการตรวจพระหทัยด้วยคลื่นเสียง เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559 ไม่พบการอักเสบติดเชื้อภายในพระหทัย แต่พบการคลายตัวของกล้ามเนื้อพระหทัยผิดปรกติและความดันของระบบการไหลเวียนพระโลหิตในพระปัปผาสะ(ปอด)สูงกว่าปรกติ
เนื่องจากผลของการตรวจพระโลหิตด้านการชี้วัดการอักเสบ ยังคงแสดงว่ามีการอักเสบหลงเหลืออยู่ คณะแพทย์ฯ จึงได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะทางหลอดพระโลหิตเป็นระยะ และถวายออกซิเจนอย่างต่อเนื่องร่วมกับการทำกายภาพบำบัดถวาย กับดูดพระเสมหะและพระเขฬะ(น้ำลาย)ตามจำเป็นเพื่อป้องกันการอุดกั้นหลอดพระวาโย(หลอดลม)
เมื่อคืนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2559 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หายพระทัยเร็วขึ้น ผลการตรวจเอกซเรย์พระอุระ(อก) ไม่พบการอักเสบของพระปัปผาสะ(ปอด) เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 มีพระปรอทสูง 38.1 องศาเซสเซียส คณะแพทย์ฯ ได้พยายามสืบค้นหาสาเหตุของการอักเสบ โดยวิธีพิเศษต่างๆทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาสาเหตุการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียและการอักเสบที่เกิดจากเชื้ออื่นๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการรอผลตรวจ ในระหว่างนี้คณะแพทย์ฯ ได้เริ่มถวายพระโอสถปฏิชีวนะขนานใหม่เพิ่มทางหลอดพระโลหิตและติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิด )
จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
สำนักพระราชวัง 16 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2559