นายกฯ ขอให้หยุดเคลื่อนไหวกรณีแต่งตั้งพระสังฆราช-เตรียมให้พระ "ดีเบต"

สังคม
17 ก.พ. 59
10:30
484
Logo Thai PBS
นายกฯ ขอให้หยุดเคลื่อนไหวกรณีแต่งตั้งพระสังฆราช-เตรียมให้พระ "ดีเบต"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่ามีความกังวลกรณีเครือข่ายพระสงฆ์ประชุมกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวเรื่องการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ เตรียมเชิญพระทุกฝ่าย "ดีเบต" ให้ประชาชนฟัง

พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐฯ-อาเซียน ที่ซันนีแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 14-18 ก.พ.2559 ยอมรับว่ามีความกังวลกรณีเครือข่ายคณะสงฆ์และองค์กรภาคีจัดประชุมที่พุทธมณฑลเมื่อวันที่ 15 ก.พ.2559 เนื่องจากเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะตัดสินหรือใช้การบังคับไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องความศรัทธา และการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชถือเป็นพระราชอำนาจ ไม่อยากให้เป็นการรบกวนเบื้องพระยุคลบาท

"เรื่องที่ผมเป็นกังวลคือเรื่องพระ ผมยังตัดสินอะไรให้ใครไม่ได้ เพราะตราบใดก็ตามถ้ายังมีความขัดแย้งกันอยู่แบบนี้ก็ต้องมีปัญหา ในเมื่อกฎวินัยสงฆ์ยังไม่เพียงพอก็ต้องไปว่าด้วยข้อกฎหมายกัน คนหวังดีจริงๆ ต้องการให้ศาสนาพุทธเป็นที่เคารพนับถือต้องหาทางแก้ปัญหาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นมหาเถระสมาคม รัฐบาล กลุ่มผู้เห็นต่าง ฯลฯ ทั้งหมดต้องไปหาทางออกไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะโยนภาระขึ้นมาแล้วรัฐบาลก็ต้องนำเสนอไปตามกฎหมาย ผมเคยบอกแล้วว่า ถ้ามีผลกระทบไปถึงสถาบัน ผมต้องเคลียร์ให้จบก่อน เพราะเป็นพระราชอำนาจในการทรงแต่งตั้ง อย่าให้สิ่งต่างๆ ขึ้นไปถึงพระองค์ท่านเลย พระองค์ท่านก็ทรงประชวรอยู่ด้วย ผมรับไว้เองก็แล้วกัน

"ผมสั่งการไปแล้วว่าพอกลับไปประเทศไทย ผมจะเอาพระทั้งสองฝ่ายมาดีเบตกัน ในเมื่อเป็นพระแล้วแก้กันไม่ได้ ก็เอามาดีเบตกันให้ประชาชนฟังว่าเหตุผลเป็นอย่างไร เรื่องอะไรที่รัฐบาลเกี่ยวข้องอยู่ก็จะส่งตัวแทนเข้าไปตอบให้ ผมไม่อยากให้ศาสนาพุทธเสื่อมถอย ผมอยากให้ยุติวันนี้ให้ได้ เพราะไม่อย่างนั้นจะเป็นปัญหาใหญ่ต่อไป และถ้าคุยกันในทางสงฆ์ไม่ได้ ก็ต้องไปคุยกันด้วยข้อกฎหมาย ก็ขออย่าเคลื่อนไหวเลย ผมไม่อยากใช้อำนาจกับพระหรือกับฆราวาสที่สนับสนุนแต่ละฝ่ายอยู่ เดี๋ยวมันจะวุ่นวาย" พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไทยที่สหรัฐฯ 

สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบการครอบครองรถหรูที่มีชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ และผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเป็นผู้ครอบครองนั้น พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 ก.พ.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะแถลงรายละเอียดทั้งหมด เบื้องต้น ซึ่งได้รับรายงานสรุปผลการตรวจสอบจากอธิบดีดีเอสไอว่า รถคันดังกล่าวผิดกฎหมาย ขณะที่ผู้ครอบครองจะมีความผิดด้วยหรือไม่ เป็นเรื่องของขั้นตอนดำเนินการว่ารู้หรือจงใจหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งข้อมูลให้กรมศุลกากรจัดการประเมินภาษี เนื่องจากเป็นรถในบัญชีรายชื่อรถจดประกอบหลีกเลี่ยงภาษี

ส่วนเรื่องที่ดีเอสไอสอบถามไปที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เรื่องพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช กรณีอาบัติปาราชิกของพระธัมมชโย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ดีเอสไอได้รับหนังสือตอบกลับจากพศ. เรื่องมติมหาเถรสมาคม แล้ว จึงมอบหมายให้พนักงานสอบสวนสำนักคดีความมั่นคง รับไปศึกษารายละเอียด ก่อนเรียกประชุมกันอีกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง