รมว.ยุติธรรมยืนยันไม่มีคำสั่งพิเศษกรณีดีเอสไอสอบปากคำ "สมเด็จช่วง"

อาชญากรรม
10 มี.ค. 59
09:39
107
Logo Thai PBS
รมว.ยุติธรรมยืนยันไม่มีคำสั่งพิเศษกรณีดีเอสไอสอบปากคำ "สมเด็จช่วง"
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์เตรียมเข้าให้ปากคำต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษในวันที่ 16 มี.ค.2559 ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยืนยันไม่ได้มีคำสั่งใดๆ เป็นพิเศษ โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอน แต่กำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการด้วยความเคารพ เพราะเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่

วันนี้ (10 มี.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตรวจสอบรถเบนซ์โบราณที่มีชื่อ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นผู้ครอบครอง ซึ่งพบว่าเป็นรถที่มีการกระทำผิดทุกขั้นตอน และมีการส่งหนังสือนัดหมายสอบปากคำไปแล้วก่อนหน้านี้ ล่าสุด สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์มีหนังสือตอบกลับถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กำหนดนัดให้พนักงานสอบสวน เข้าพบในวันที่ 16 มีนาคม เวลา 20.00 น. โดยดีเอสไอ มอบหมายให้ พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ ผู้บัญชาการสำนักคดีภาษีอากร ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนเป็นผู้เข้าพบกับสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ตามเวลาที่กำหนด

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ไม่ได้สั่งการใดๆเป็นพิเศษ ถือเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปกติ เบื้องต้นทราบว่า มีการมอบหมายให้ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีดีเอสไอ ร่วมสอบปากคำด้วย ส่วนตัวได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ให้ความเคารพกับ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เพราะเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่

สำหรับกรณีที่นายวิชาญ รัษฐปานะ เจ้าของอู่วิชาญ ซึ่งเป็นผู้ซ่อมรถเบนซ์คันดังกล่าว เข้าร้องขอคุ้มครองพยาน และขอทนายสู้คดี ได้มอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพดำเนินการตามกฎหมาย และให้อธิบดีดีเอสไอไปพูดคุยแล้ว

ส่วนกรณีปัญหาการเสนอรายชื่อเพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย สถาปนาเป็นพระสังฆราช นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีหลายส่วนได้สอบถามมายัง พศ. เกี่ยวกับข้อสอบถามของรัฐบาล กรณีการเสนอสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชว่า พศ.ได้ส่งเรื่องให้รัฐบาลหรือไม่

พศ.ขอชี้แจงว่ารัฐบาลไม่ได้มีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร สอบถามถึงสภาพความขัดแย้ง กรณีมหาเถรสมาคมมีมติเสนอนาม สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ โดยข้อมูลที่ พศ.ได้ดำเนินการเป็นเพียงการรวบรวมสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นไว้เท่านั้น โดยไม่ได้ส่งไปให้รัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ได้สอบถามเรื่องดังกล่าวมาเป็นลายลักษณ์อักษร

ส่วนกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมีการวินิจฉัยมติมหาเถระสมาคม พศ.ยังไม่ได้รับการประสานข้อมูลจากฝ่ายรัฐบาล หรือทางผู้ตรวจการแผ่นดินแต่อย่างใด ซึ่งตามกระบวนการแล้ว ผู้ตรวจการแผ่นดิน จะส่งเรื่องการวินิจฉัยมาตรา 7 ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ ให้นายกรัฐมนตรี เป็นผู้พิจารณา ซึ่งต้องรอดูว่า รัฐบาลจะมีการสั่งการมาหรือไม่อีกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง