"พล.อ.อุดมเดช" แถลงยืนยันราชภักดิ์โปร่งใส-ไม่เคยพูดหักหัวคิว

การเมือง
24 มี.ค. 59
10:06
356
Logo Thai PBS
"พล.อ.อุดมเดช" แถลงยืนยันราชภักดิ์โปร่งใส-ไม่เคยพูดหักหัวคิว
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงยืนยันความโปร่งใสในการดำเนินการโครงการอุทยานราชภักดิ์ ไม่เคยยอมรับคำว่าค่าหัวคิว ส่วนประเด็นที่เซียนพระรับเงินไปแล้วนำมาคืน จะส่งให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบต่อ พร้อมเดินหน้าโครงการให้แล้วเสร็จ หลังชะลอการก่อสร้างเกือบ 6 เดือน

วันนี้ (24 มี.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) แถลงผลการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ ช่วงเช้าวันนี้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า จะเดินหน้าการดำเนินการโครงการอุทยานราชภักดิ์ต่อไป หลังจากชะลอการดำเนินการมา 5-6 เดือน โดยเฉพาะการสร้างแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่จะมีห้องประวัติศาสตร์และจัดนิทรรศการเชิดชูบูรพกษัตริย์

พล.อ.อุดมเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่เคยยอมรับคำว่าหัวคิวและปฏิเสธมาโดยตลอด ส่วนการแถลงผลการตรวจสอบเมื่อวานนี้ มั่นใจอยู่แล้วว่าจะไม่พบความผิดปกติ ขณะที่กรรมการมูลนิธิ และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ตรวจสอบประเด็นการรับเงินบริจาคแล้ว ว่าเงินบริจาคจากบุคคลที่ 3 ไม่ใช่การบริจาคเพื่อลบล้างความผิด อย่างไรก็ตาม พร้อมให้ความร่วมมือ หาก ศอตช.จะส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ

ทั้งนี้ การแถลงผลตรวจสอบทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์เมื่อวานนี้ ใช้เวลาเกือบ 2 ชม. โดยนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบประเด็นค่าหัวคิว สรุปผลการตรวจสอบว่า ไม่พบความผิดปกติในการจ่ายเงิน ส่วนคำว่าค่าหัวคิวเป็นการตีความว่าเป็นค่าตอบแทนทางธุรกิจ

ส่วน สตง.ซึ่งก่อนหน้านี้ตรวจสอบและแถลงผลสอบไปแล้ว ยืนยันผลสอบตามเดิม ระบุว่า ไม่พบการทุจริต โดยตรวจสอบในทุกประเด็น ทั้งกรณีเงินบริจาค การจัดซื้อจัดจ้าง เนื้องาน การบริหารจัดการเงิน และประเด็นค่าหัวคิวที่เกี่ยวข้องกับเซียนพระ ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องตีความคำว่าหัวคิวกับค่าให้คำปรึกษา

สำหรับโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ เกิดขี้นภายใต้แนวคิดของการสร้างแลนด์มาร์กแห่งสำคัญของประเทศ โดยมีสัญลักษณ์เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์บูรพมหากษัตริย์ 7 พระองค์ ในพื้นที่กองทัพบก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้ประชาชนได้ชมความงามและสักการะ ซึ่งภายหลังมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบการใช้เงินในโครงการ รวมถึงความโปร่งใสในการบริหารจัดการเงินบริจาค

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง