วันนี้ (17 พ.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นกว่าร้อยละ 2 ไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนทันที หลังจากที่ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ปรับขึ้นคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเป็น 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในช่วงครึ่งหลังของปี 2016 จากคาดการณ์เดิมที่ 45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากการผลิตน้ำมันที่ลดลงสวนทางและความต้องการน้ำมันที่ปรับตัวแข็งแกร่ง มีแนวโน้มบรรเทาภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือร้อยละ 2.08 ไปอยู่ที่ 47.19 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนต์เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์สหรัฐ ไปอยู่ที่ 48.83 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2558
นักวิเคราะห์ ระบุว่า สาเหตุการผลิตน้ำมันลดลงมาจากเหตุไฟป่าในแคนาดาและการโจมตีท่อส่งน้ำมันในไนจีเรียเป็นหลัก ซึ่งจะส่งผลให้อุปทานน้ำมันลดลงในช่วงครึ่งหลังของปี สวนทางกับความต้องการน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ขณะที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) รายงานยอดใช้น้ำมันและไฟฟ้าไตรมาสแรกปีนี้ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะไฟฟ้าที่อากาศร้อนจัด ดันการใช้ขยายร้อยละ 6.6 ส่วนราคาน้ำมันต่ำดันใช้ดีเซลเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เบนซินร้อยละ 12.2 ขณะที่การใช้ LPG และ NGV สวนทางลดลงต่อเนื่อง เหตุหันไปใช้น้ำมันถูกแทน