วันนี้ (25 พ.ค.2559) ที่โรมแรมเซ็นทารา ถนนแจ้งวัฒนะ กกต.ได้จัดพิธีปล่อยขบวนรถขนร่างรัฐธรรมนูญจำนวน 1 แสนเล่ม ในการคิกออฟหรือเริ่มกระบวนการทำประชามติอย่างเป็นทางการ ภายหลังการคิกออฟการประชาสัมพันธ์ประชามติ 7 สิงหา นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินรับคำร้องของนายจอน อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน ที่ยื่นให้พิจารณาว่า พ.ร.บ.ประชามติ ขัดต่อร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ ประธาน กกต.กล่าวว่า มาตรา 61 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ จะไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 มาตรา 4 เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของบุคคล ในการดำเนินการออกเสียงฯ เนื่องจากผ่านการพิจารณาจาก สนช.มาแล้ว ขณะนี้ กกต.อยู่ระหว่างการพิจารณา คาดว่าจะส่งความเห็นไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินในสัปดาห์หน้า และหากมีการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ประธาน กกต. ยืนยันว่าจะไม่ทำให้บังคับใช้กฎหมายสะดุด ซึ่งสามารถดำเนินการได้จนกว่าจะมีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และขณะนี้ยังไม่มีการประเมินว่าจะมีปัจจัยใดที่จะทำให้การออกเสียงประชามติไม่สำเร็จ เพราะยังไม่มีเหตุบ่งชี้ใดๆ
ขณะที่นายประวิช รัตนเพียร กรรมการ กกต. ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่กกต.จะไม่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งหน้าที่ในการชี้แจงเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กกต.จึงไม่มีสิทธิ์ไปชี้นำหรือรณรงค์ให้รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และย้ำว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย นายประวิช ยังเชื่อด้วยว่า การออกเสียงประชามติวันที่ 7 สิงหาคม จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์กว่าร้อยละ 80 และจะมากกว่าการทำประชามติครั้งแรกเมื่อปี 2550 ที่มีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เพียงร้อยละ 57 เท่านั้น