ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัยใน จ.นราธิวาส อย่างเข้มงวด หลังเกิดเหตุระเบิดเสาไฟฟ้าจำนวน 19 ต้น ใน 9 อำเภอ คือ อำเภอเมืองนราธิวาส สุไหงโก-ลก สุไหงปาดี ยี่งอ แว้ง เจาะไอร้อง ระแงะ จะแนะ และอำเภอตากใบ โดยเฉพาะในอำเภอสุไหงโกลก ซึ่งเกิดระเบิดขึ้น 3 จุด คือ หน้าโรงเรียนแสงธรรมวิทยา หน้าเทศบาลตำบลปาเสมัส และหน้าบริษัทเอกชนหมู่ 7 ผู้ก่อเหตุได้ลอบวางระเบิดเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงทำให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นการสร้างเหตุก่อกวนก่อนลงประชามติในวันนี้
ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ระบุว่า จะใช้กำลังตำรวจ 2,800 นายและทหาร 1,300 นาย เพื่อดูแลความปลอดภัยหน่วยเลือกตั้ง 936 หน่วยใน 13 อำเภอ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่วางตัวเป็นกลางทางการเมืองรี
ส่วนที่ จ.ปัตตานี ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา กำลังตำรวจ และอาสาสมัครรักษาดินแดน ตรวจสอบยานพาหนะ ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์อย่างละเอียด ก่อนเข้าสู่เขตเมืองปัตตานี ทั้งเส้นทางสายหลัก และเส้นทางสายรอง ก่อนการลงประชามติ หลังเกิดความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ ยังได้มีการตรึงกำลังดูแลสถานที่ลงคะแนนทุกจุด เพื่อป้องกันเหตุความไม่สงบ
ขณะที่ จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจต่างๆ ได้เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ที่ออกมาใช้สิทธิ โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอบังนังสตา ซึ่งเกิดเหตุระเบิดหลายจุด ก่อนการลงคะแนนประชามติเมื่อสองวันก่อน ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะจังหวัดยะลา ระบุว่า ขณะนี้ได้สั่งกำลังตรึงเข้มทุกพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ทั้งในหน่วยลงคะแนน พื้นที่ใกล้เคียงรอบสถานที่ลงคะแนน และเส้นทางที่ประชาชนใช้สัญจรเดินทางมาใช้สิทธิ ขณะที่การนับคะแนนจะนับคะแนนในหน่วยลงคะแนนทั้งหมด เพื่อความสะดวกในการรักษาความปลอดภัย
แม้จะมีเหตุความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ กกต.ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คาดการณ์ว่า ประชาชนจะออกมาใช้สิทธิลงคะแนนประชามติมากกว่า ร้อยละ 70 เพราะคนในพื้นที่ส่วนใหญ่มีความตื่นตัวทางการเมืองสูง