ตร.แจ้ง 4 ข้อหา "ปิยรัฐ" ฉีกบัตรประชามติ คนถ่ายคลิปโดนด้วย

การเมือง
8 ส.ค. 59
08:01
3,147
Logo Thai PBS
ตร.แจ้ง 4 ข้อหา "ปิยรัฐ" ฉีกบัตรประชามติ คนถ่ายคลิปโดนด้วย
ตำรวจ สน.บางนา แจ้งข้อหานักศึกษาและนักกิจกรรม 3 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ฉีกบัตรลงประชามติที่หน่วยออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในสำนักงานเขตบางนา ก่อนให้ประกันตัวกลางดึกเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.2559)

นายปิยรัฐ จงเทพ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อเหตุฉีกบัตรลงประชามติเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. เมื่อวานนี้ (7 ส.ค.) พร้อมกับตะโกนว่า "เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ" โดยมีนายทรงธรรม แก้วพันพฤกษ์และนายจิรวัฒน์ เอกอัครนุวัฒน์ ซึ่งมาพร้อมกับนายปิยรัฐได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวิดีโอไว้ หลังจากนั้นทั้ง 3 คนได้ถูกตำรวจควบคุมตัวและนำไปที่ สน.บางนาทันที

ที่สถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่สอบปากคำนายปิยรัฐ รวมทั้งยึดโทรศัพท์มือถือของนายทรงธรรมและนายจิรวัฒน์ไปตรวจสอบ

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ตำรวจได้แจ้งข้อหานายปิยรัฐ 4 ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญาและพ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ ได้แก่ ทำลายเอกสารของทางราชการ (กฎหมายอาญามาตรา 188) ทำลายทรัพย์ของผู้อื่น (กฎหมายอาญามาตรา 358) ทำลายบัตรออกเสียงประชามติ (พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ มาตรา 59) และก่อความวุ่นวายในที่ออกเสียงประชามติ (พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ มาตรา 60(9) ) ซึ่งนายปิยรัฐได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา ต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น. ตำรวจจึงให้ประกันตัวนายปิยรัฐด้วยเงินประกัน 20,000 บาท

ขณะที่นายทรงธรรมและนายจิรวัฒน์ถูกแจ้งข้อกล่าวหาก่อความวุ่นวายในที่ออกเสียงตามมาตรา 60 (9) ของ พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ จากการอัดคลิปภาคการฉีกบัตรออกเสียงประชามติของนายปิยรัฐ ทั้ง 2 คน ได้รับการประกันตัวเมื่อเวลา 03.30 น. โดยวางเงินประกันคนละ 10,000 บาท

นายปิยรัฐ ซึ่งเคยทำกิจกรรมกับศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตย (ศนปท.) ที่ให้ความช่วยเหลือผู้ต้องขังคดีการเมืองกล่าวว่า เขาเจตนาฉีกบัตรออกเสียงประชามติเพราะต้องการบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่าเขาไม่ยอมรับอำนาจของรัฐบาล คสช. และการทำประชามติครั้งนี้มีความไม่ชอบธรรมตั้งแต่ต้น นอกจากนี้เขายังได้เขียนแถลงการณ์ก่อนฉีกบัตรมีข้อความบางส่วนว่า

"สิ่งที่ทำไปเป็นการตัดใจไปด้วยเหตุผล มีสติครบสมบูรณ์ ไม่ได้เสพสุรา หรือของมึนเมา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความพยายามทำตามเจตจำนงเสรี ตามจิตสำนึกของพลเมือง ไม่ขอหลีกหนี และไม่รู้สึกหวาดกลัวใดๆ และจะขอสู้คดีในชั้นศาลให้เห็นถึงการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรมในการทำประชามติครั้งนี้"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง