วันนี้ (10 ก.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ รายงานว่า ช่วงระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน 2559 ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะภาคเหนือจะมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองถึงร้อยละ 70 ของพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค ส่วนสภาพอากาศในขณะนี้ที่ จ.พิจิตร ฝนที่ตกสะสมทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ ต.ท่าเสา อ.โพทะเล ชาวนาทำแนวคันดินล้อมนาข้าวกว่า 300 ไร่ เพื่อป้องกันน้ำท่วม
ขณะที่ภาคอีสาน ชลประทาน จ.ศรีสะเกษ ต้องเปิดทางน้ำให้น้ำไหลอ้อมประตูระบายน้ำห้วยสำราญลงสู่แม่น้ำมูล หลังพบว่าตลิ่งและสันประตูถูกน้ำกัดเซาะพังเสียหาย ทำให้ไม่สามารถแขวนบานประตูระบายน้ำทั้ง 3 บานได้ ส่วนที่ จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำในแม่น้ำมูลที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ชลประทานต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเตรียมระบายน้ำในเขต อ.เมือง จ.อุบลราชธานี และวารินชำราบ ซึ่งเป็นจุดลุ่มต่ำและเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก
ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงด้าน จ.บึงกาฬ เช้าวันนี้ เพิ่มขึ้นอีก 50 เซนติเมตร และมีสีขุ่นแดง ทำให้ปลานิลที่เลี้ยงไว้ในกระชังของชาวประมงพื้นบ้าน ต.วิศิษฐ์ ทยอยตายจากอาการน็อกน้ำ ผู้เลี้ยงปลาต้องเร่งจับปลาขายก่อนกำหนด
ขณะที่ภาคใต้ ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องทำให้น้ำในคลองต้นหาร ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ ไหลมาจากเขาพนมเบญจา ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งเตือนชาวบ้านที่อาศัยใกล้คลองให้เตรียมพร้อมอพยพหากระดับน้ำสูงขึ้น ขณะที่คลื่นลมที่บริเวณชายหาดอ่าวนาง หาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ มีกำลังแรง เจ้าหน้าที่ต้องปักธงแดง ห้ามลงเล่นน้ำทะเลเพื่อความปลอดภัย
ด้านสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ ประกาศเตือนเรือโดยสารทุกประเภทให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงในระยะนี้ โดยเฉพาะเรือขนาดเล็กห้ามออกจากฝั่งอย่างเด็ดขาด และที่ จ.พังงา อาสาสมัครกู้ภัยเขาหลัก และผู้ประกอบการร้านค้าย่านหาดนางทอง ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า ช่วยกันทำความสะอาดชายหาดนางทอง หลังคลื่นลมแรงได้ซัดเอาขยะจำนวนมากมาเกยชายหาด