ทำเนียบขาวชี้ยังไม่พบหลักฐานรถไฟพุ่งชนสถานีเป็นก่อการร้าย

รถไฟโดยสารบรรทุกคนมาเต็มขบวนพุ่งเข้าชนสถานีรถไฟเมืองโฮโบเคน (Hoboken) ในรัฐนิวเจอร์ซี สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับตัวสถานี โดยมีภาพที่มีผู้นำมาเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นในตัวสถานีรถไฟและรถตู้โดยสารอยู่ในสภาพพังเสียหายท่ามกลางซากปรักหักพังของส่วนหลังคาสถานีที่ยุบลงมา

นายคริส คริสตี้ ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซี เปิดเผยว่า รถไฟขบวนดังกล่าวแล่นเข้าสู่สถานีด้วยความเร็วสูงและพุ่งชนเครื่องกั้นรางเข้าไปยังกำแพงชั้นในของตัวสถานี มีผู้เสียชีวิต 1 คนเป็นสตรีและได้รับบาดเจ็บอีก 108 คน บางคนมีอาการสาหัส โดยสตรีที่เสียชีวิตยืนอยู่บนชานชาลาและถูกซากปรักหักปลิวมาโดน

ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซี เปิดเผยอีกว่า คนขับรถไฟซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สืบสวน ขณะที่สำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ หรือเอ็นทีเอสบี กำลังเร่งสืบสวนสาเหตุ โดยมุ่งการสืบสวนในประเด็นการไม่ได้ติดตั้งระบบเบรคอัตโนมัติให้กับรถไฟอาจเป็นสาเหตุหรือไม่ และจะมีการตรวจสอบว่าเหมือนกับอุบัติเหตุที่รถไฟโดยสารของการท่าเรือนิวยอร์กพุ่งชนสถานีรถไฟเดียวกันนี้และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 30 คน เมื่อปี 2554 หรือไม่

ทั้งนี้เมื่อปี 2551 สภาคองเกรสของสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายที่บังคับให้รถไฟทุกขบวนต้องติดตั้งระบบเบรคอัตโนมัติ หรือพีทีซี (PTC) ภายในปี 2558 แต่บริษัทที่ให้บริการรถไฟส่วนใหญ่ไม่สามารถติดตั้งได้ทันตามกำหนด เนื่องจากมีราคาแพงและการติดตั้งมีความซับซ้อน ทำให้รถไฟบางสาย รวมทั้งสายนิวเจอร์ซีขู่จะหยุดให้บริการหากถูกบีบให้ติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าว สภาคองเกรสจึงต้องยืดเวลาการติดตั้งระบบพีทีซี ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการป้องกันอุบัติเหตุให้กับรถไฟออกไปจนถึงปี 2561

ด้านทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ยังไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเหตุรถไฟพุ่งชนสถานีในรัฐนิวเจอร์ซีเป็นการก่อการร้าย แต่ก็ยังไม่สามารถตัดประเด็นนี้ทิ้งไปได้