แพทย์เฝ้าระวังหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อซิกา หากพบทารกศีรษะเล็กกว่าปกติอาจยุติตั้งครรภ์

สังคม
5 ต.ค. 59
19:34
239
Logo Thai PBS
แพทย์เฝ้าระวังหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อซิกา หากพบทารกศีรษะเล็กกว่าปกติอาจยุติตั้งครรภ์
ที่ประชุม คณะกรรมการจัดการแนวทางของหญิงตั้งครรภ์ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อไวรัสซิกา มีข้อสรุปที่จะเพิ่มความถี่ของการอัลตร้าซาวด์หญิงมีครรภ์ทุกเดือน เพื่อประเมินขนาดศีรษะของทารกว่า มีขนาดเล็กผิดปกติหรือไม่

วันนี้ ( 5 ต.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุม คณะกรรมการจัดการแนวทางของหญิงตั้งครรภ์ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อไวรัสซิกา ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามปกติหญิงตั้งครรภ์จะได้รับการตรวจครรภ์หรืออัลตร้าซาวด์ ช่วงอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ หรือ 5 เดือน เพื่อตรวจหาความผิดปกติของทารกแต่กรณีหญิงตั้งครรภ์ที่พบว่าติดเชื้อไวรัสซิกา จำเป็นต้องเพิ่มความถี่การอัลตร้าซาวด์เป็นทุกเดือน เพื่อประเมินขนาดศีรษะของทารกว่า มีขนาดเล็กผิดปกติหรือไม่ หากพบว่ารอบวงศีรษะของเด็กต่ำกว่าค่ามาตรฐาน มีความเป็นไปได้ที่จะยุติการตั้งครรภ์แต่ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสซิกาและมารดาต้องมีอายุครรภ์ไม่เกิน 24 สัปดาห์ หรือ 6 เดือน

สำหรับความเสี่ยงพบทารกศีรษะเล็ก ในประเทศไทยมีเพียงร้อยละ 1 และไม่ได้มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสซิกาเท่านั้น แต่อาจเป็นผลมาจากโรคอื่น เช่น โรคหัดเยอรมัน ซิฟิลิส ภาวะขาดสารอาหารในมารดา ที่ จ.เชียงใหม่

นพ.วรัญญู จำนงประสาทพร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ จ.เชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาแล้ว 16 คน ในจำนวนนี้เป็นหญิงตั้งครรภ์ 3 คน ซึ่งอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์

ที่ จ.อุบราชธานี สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 ขอความร่วมมือประชาชน ช่วยกันตรวจสอบและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ซึ่งเป็นพาหะสำคัญการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซิกา บริเวณบ้านของตนเองเนื่องจากเป็นฤดูฝนอาจมีน้ำขัง ทั้งนี้ปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซิกาในพื้นที่ แต่ปัจจุบันสามารถควบคุมโรคโดยไม่พบมีผู้ป่วยเพิ่มเติม

ที่ จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองกระบี่ ฉีดพ่นสารเคมีกำจัดยุงตามชุมชนต่างๆ ที่พบการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก

นายแพทย์ไพศาล เกื้อสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ระบุว่า จ.กระบี่ ยังไม่พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้แต่ก็ได้เตรียมบุคลากรทางการแพทย์, เวชภัณฑ์ สถานที่ควบคุมกักกันโรค หากพบผู้ติดเชื้อ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง