กรมชลประทานเตือน 7 จังหวัดใต้เขื่อนเจ้าพระยา เตรียมรับมือน้ำสูงขึ้นอีก 75 ซม.

ภัยพิบัติ
10 ต.ค. 59
06:42
1,061
Logo Thai PBS
กรมชลประทานเตือน 7 จังหวัดใต้เขื่อนเจ้าพระยา เตรียมรับมือน้ำสูงขึ้นอีก 75 ซม.
สถานการณ์น้ำลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยายังน่าห่วง หลังกรมชลประทานเตรียมระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มอีก 300 ลบ.ม.ต่อวินาที ทันทีที่มีคำสั่ง ส่งผลให้ระดับน้ำใต้เขื่อนเพิ่มขึ้น 75 ซม. ประกาศเตือน 7 จังหวัด รับมือและติดตามข่าวสารใกล้ชิด

จากกรณีกรมชลประทานเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จากเดิมวันละ 2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 2,300 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่รับน้ำระบายต้องเตรียมรับมือกับระดับน้ำที่สูงขึ้น

วันนี้ (10 ต.ค. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การระบายน้ำเพิ่มขึ้นทุก 100 ลบ.ม.ต่อวินาที จะให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 25 ซม. ฉะนั้นถ้าปล่อย 300 ลบ.ม.ต่อวินาที หมายความว่าประชาชนต้องเตรียมรับมือกับระดับน้ำเพิ่มอีก ประมาณ 75 ซม.

โดยจุดที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือ จ.นครสวรรค์ ปากน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา หลังพบว่ามีน้ำเหนือกับน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังไหลมาสมทบกันและทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงเกินกว่าระดับกักเก็บ

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จากปริมาณฝนตกหนักทางตอนบนของประเทศ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.นครสวรรค์เพิ่มสูงขึ้น ทางกรมชลประทานจำเป็นต้องปรับเพิ่มปริมาณปล่อยน้ำออกจากเขื่อนเจ้าพระยา จากเดิมวันละ 2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 2,300 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อรักษาสมดุลระหว่างปริมาณน้ำเหนือเขื่อนและปริมาณน้ำระบายท้ายเขื่อน และรองรับปริมาณน้ำที่จะเพิ่มสูงขึ้น

จึงประกาศเตือน 7 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ลพบุรี และ จ.สุพรรณบุรี เตรียมรับมือปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น 75 ซม. ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

“การปรับเพิ่มการระบายน้ำจะเริ่มดำเนินการทันทีที่ได้รับความเห็นชอบ เพราะหากมีฝนตกลงมาเพิ่ม และจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่าเกณฑ์” รองอธิบดีกรมชลประทาน ระบุ

นายทองเปลวกล่าวต่ออีกว่า สำหรับข่าวที่แชร์ในโซเชียลมีเดียถึงปริมาณน้ำที่ปล่อยจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นจนท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ไม่เป็นความจริง เพราะน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ไหลลงสู่เขื่อนพระราม 6 ก่อนที่จะไปรวมกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ในปริมาณ 2,076 ลบ.ม.ต่อวินาที ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติไม่กระทบพื้นที่ชุมชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง