ตลาดหุ้นเอเชียปรับลดลงหลังโพลชี้ทรัมพ์คะแนนนำฮิลลารี

ต่างประเทศ
2 พ.ย. 59
20:48
143
Logo Thai PBS
ตลาดหุ้นเอเชียปรับลดลงหลังโพลชี้ทรัมพ์คะแนนนำฮิลลารี
ตลาดหลักทรัพย์เอเชียปรับตัวลดลงหลังจากผลการสำรวจคะแนนนิยม พบว่า นายโดนัลด์ ทรัมพ์ มีคะแนนนำนางฮิลลารี คลินตัน ขณะที่คณะรณรงค์หาเสียงของนางคลินตันเรียกร้องให้เอฟบีไอเปิดเผยข้อมูลความสัมพันธ์ระหว่างนายทรัมพ์กับรัฐบาลรัสเซีย

หัวหน้าคณะรณรงค์หาเสียงของนางฮิลลารี คลินตัน เรียกร้องให้นายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนกลาง (เอฟบีไอ) เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมพ์ ผู้แทนพรรครีพับลิกันกับรัฐบาลรัสเซีย เนื่องจากรัสเซียอาจอยู่เบื้องหลังการจารกรรมข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ของหน่วยงานในสังกัดพรรคเดโมแครต เพื่อแทรกแซงการเลือกตั้งในครั้งนี้และเอื้อผลประโยชน์ให้นายทรัมพ์

ข้อเรียกร้องของหัวหน้าคณะรณรงค์หาเสียงของนางคลินตัน มีขึ้นหลังจากที่นายโคมีย์ประกาศว่าจะรื้อฟื้นการสอบสวนกรณีการใช้อีเมลส่วนตัว 33,000 ฉบับของนางคลินตัน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกัน คาดว่า การรื้อฟื้นการสอบสวนกรณีดังกล่าวจะทำให้นางคลินตันหมดโอกาสคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง รวมทั้งลดโอกาสของพรรคเดโมแครตในการครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา

ด้านนายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกระดับสูงของพรรครีพับลิกัน ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า ชาวอเมริกันไม่ต้องการให้นางคลินตันขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ พร้อมกับเรื่องอื้อฉาว

ขณะที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ คาดการณ์ว่า นางคลินตันจะชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงของคณะผู้เลือกตั้ง 332 เสียง ขณะที่นายทรัมพ์จะได้เพียง 206 เสียง การคาดการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับโครงการรอยเตอร์ อิปซอส สเตทส์ ออฟ เดอะ เนชั่น ที่ระบุว่า นางคลินตันจะได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียงของคณะผู้เลือกตั้ง 278 เสียง

ก่อนหน้านี้สถาบันมูดี้ส์คาดการณ์ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีถูกต้องมาแล้ว 9 ครั้ง นับตั้งแต่ศึกการเลือกตั้งเมื่อปี 1980 ระหว่างนายโรนัลด์ เรแกน จากพรรครีพับลิกันกับนายจิมมี คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีในขณะนั้น

สำหรับผลการสำรวจของสำนักข่าวเอบีซีร่วมกับวอชิงตันโพสต์ พบว่า นายทรัมพ์พลิกกลับมามีคะแนนนำนางคลินตัน ร้อยละ 46 ต่อ 45 ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์เอเชียปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ตามทิศทางตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ เนื่องจากนักลงทุนเกิดความกังวลใจเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในสัปดาห์หน้า

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง