เมื่อวานนี้ (22 ธ.ค.2559) เภสัชกร ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการองค์การอาหารและยา (อย.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้โพสผ่านสื่อออนไลน์ถึงการรับประทานยา "ทรามาดอล" หรือที่เรียกกันว่ายาเขียว-เหลือง ตามสีของแคปซูล จนป่วยขั้นรุนแรง มีอาการสมองเบลอ ความจำเสื่อมว่า การจะควบคุมการเข้าถึงยาทรามาดอลให้เข้มงวดขึ้นอาจไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา ในทางตรงกันข้ามอาจจะเป็นการขัดกับความพยายามในการลดความแออัด ของสถานบริการทางการแพทย์ เช่น ผู้ป่วยไมเกรน ปกติสามารถซื้อยาทรามาดอลได้ กลับต้องไปพบแพทย์ กลายเป็นการเพิ่มภาระให้ผู้ป่วยบางกลุ่ม กฎหมายกำหนดให้ยาทรามาดอล ต้องสั่งจ่ายโดยเภสัชกร จ่ายได้ครั้งละไม่เกิน 20 เม็ด ห้ามจำหน่ายให้เด็กอายุต่ำกว่า 17 ปี ในการจ่ายยาแต่ละครั้ง แต่ลงชื่อคนไข้ในบัญชียา และระบุด้วยว่า เป็นยาจากบริษัทใด
โดยกระทรวงสาธารณสุข ก็มีมาตรการควบคุมการใช้ยาที่ไม่เหมาะสม โดยหากร้านขายยาฝ่าฝืน จะมีโทษตามกฎหมาย ถูกพิจารณาพักใช้ใบอนุญาตขายยา 120 วัน ส่วนเภสัชกรหากไม่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ จะส่งเรื่องให้สภาเภสัชกรรมพิจารณาพักใช้ หรือเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ
รองเลขาธิการ อย.ยังบอกว่า ทุกภาคส่วนก็ต้องบูรณาการแก้ปัญหาร่วมกัน ที่สำคัญคือการให้การศึกษากับกลุ่มเยาวชน ให้ครอบครัวต้องมีบทบาทในการป้องกันการใช้ยาผิดวัตุประสงค์ด้วย
สำหรับยาทรามาดอลเป็นยาบรรเทาอาการปวดขั้นรุนแรง อย่างปวดข้อ ปวดไมเกรน ปวดแผลผ่าตัด หรือยาแก้ปวดอย่างพาราเซตามอลใช้ไม่ได้ผล แต่เกิดปัญหาขึ้น เพราะมีผู้นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ คือการใช้ยาเกินขนาด จนติดยา หรือใช้ไม่ตรงกับสรรพคุณของยา ทำให้เกิดผลข้างเคียง รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้