ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(21 ม.ค.2560) สภาพภายในหมู่บ้านแลแบง ต.สะบ้าย้อย อ.สะ บ้าย้อย จ.สงขลา ถูกน้ำท่วมอีกครั้งเป็นระลอกที่ 4 ในรอบ 1 เดือน เพราะเป็นพื้นที่รองรับน้ำเทือกเขาสันกาลาคีรี ไหลลงมาตั้งแต่ช่วงเช้า ชาวบ้านกว่า 36 ครอบครัว หรือกว่า 200 คน ต้องไปอาศัยภายในอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวบริเวณศาลาประชาคมอ.สะบ้าย้อย
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วม หลายอำเภอของ จ.นราธิวาสเข้าขั้นวิกฤติ ฝนที่ตกหนัก ถนนหลายสายถูกตัดขาด ขณะที่ชาวบ้านหลายหมู่บ้านต้องเร่งอพยพ และขนย้ายข้าวของ และสัตว์เลี้ยงหนีน้ำที่ท่วมสูง
ภาพจากกล้องมุมสูง แสดงให้เห็นน้ำจำนวนมากในแม่น้ำสุไหงโกลก จ.นราธิวาส ที่เอ่อไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านทั้งฝั่งไทย และมาเลเซียตลอดแนวริมน้ำเสียหายจำนวนมาก
และจากการนั่งเรือสำรวจ พบว่า น้ำในแม่น้ำไหลเชี่ยว และมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะฝนที่ตกหนัก น้ำป่าที่ไหลหลาก และน้ำบางส่วนที่ไหลมาจากประเทศเพื่อนบ้านซึ่งไหลมาสมทบ ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโกลกสูงขึ้นจนมิดบ้าน 1 ชั้น บ้านเรือนหลายร้อยหลัง มัสยิด และสถานประกอบการจมอยู่ใต้น้ำ ชาวบ้านฝั่งไทยริมฝั่งแม่น้ำอย่างน้อย 9 ชุมชน ต้องอพยพไปอยู่บ้านญาติ หลายคนบอกว่า ปีนี้ถูกน้ำท่วมมาสองครั้ง และครั้งนี้กระแสน้ำก็ไหลเชี่ยวจนไม่กล้าเข้ามาอาศัยในบ้าน
ไม่แตกต่างไปจากพื้นที่อำเภอยี่งอ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณฝนตกหนักมากที่สุดในจังหวัดนราธิวาส น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน โดยเฉพาะในตำบลละหาร ทำให้ชาวบ้านต้องขนย้ายข้าวของและอพยพผู้สูงอายุ และเด็กอย่างจ้าละหวั่น
เช่นเดียวกับพื้นที่รอยต่อ ใน 3 อำเภอ อย่างอ.ระแงะ เจาะไอร้อง และอ.สุไหงปาดี น้ำจากเทือกเขาตะเวไหลเข้าท่วม เส้นทางถูกขาด ส่วนเส้นทางบ้านอ่าวมะนาว ตำบลกะลุวอเหนือ อ.เมือง ถนนถูกน้ำซัดพังเสียหายจนไม่สามารถใช้การได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังเข้าซ่อมแซม
ด้าน นางอัสนี มีซอ บอกว่า ไม่สามารถเคลื่อนย้ายพ่อออกจากบ้าน ในต.ปาลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาสได้ หลังเมื่อกลางดึก น้ำได้ไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็วจนเก็บข้าวของหนีน้ำไม่ทัน ทำให้เธอ และพ่อ พร้อมกับสัตว์เลี้ยงจึงต้องอยู่รวมกันบนบ้าน และไม่สามารถออกจากบ้านได้ในขณะนี้ เพราะไม่มีเรือเพื่อใช้สัญจร
โดยชาวบ้าน 30 หลังคาเรือน ในต.ปาลุกาสาเมาะ ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเพราะน้ำที่ท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ชาวบ้านบอกว่า ฝนที่ยังคงตกต่อเนื่อง อาจทำให้สถานการณ์น้ำท่วมเลวร้ายลงไปอีก จึงอยากให้ทางราชการเข้ามาช่วยเหลือ โดยเฉพาะการแจกจ่ายเรือท้องแบน เพื่อใช้เดินทางเข้าออกหมู่บ้านในยามฉุกเฉิน
ส่วนบรรยากาศฝนตกในจังหวัดนราธิวาส ทั้ง 13 อำเภอ แม้บางจุดฝนจะเริ่มทิ้งช่วงแล้ว แต่ยังคงมีน้ำป่าจากพื้นที่อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส ไหลลงมาสมทบในแม่น้ำสุไหงโก-ลก และแม่น้ำสายบุรีทำให้น้ำในแม่น้ำ 2 สายหลัก ยังล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมหลายอำเภอ