ไทยพีบีเอสได้รับเอกสารที่มีลักษณะเป็นบันทึกข้อความถึงผู้กำกับ สภ.เรณูนคร เรื่องขอทราบแนวทางการปฏิบัติ ลงวันที่ 24 ธ.ค.2556 และลงนามรับรองสำเนาถูกต้องโดย พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ สัมฤทธิ์สกุลชัย

เอกสารดังกล่าวสรุปใจความสำคัญได้ว่า กลุ่มเพื่อนครูจอมทรัพย์ให้ข้อมูลกับตำรวจว่าได้พยายามหารถยนต์ หมายเลขทะเบียน บค 56 มุกดาหาร จนทราบว่าเจ้าของรถคือนายสับ วาปี เมื่อสอบถามไปนายสับแจ้งว่า ขายรถต่อให้กับนายเสริฐ รูปสะอาด เมื่อสอบถามนายเสริฐถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น นายเสริฐยอมรับว่า วันที่ 11 มี.ค.2548 ได้ขับรถเฉี่ยวชนรถจักรยานที่ จ.นครพนม จริง โดยหลังเกิดเหตุได้นำรถไปขายให้พ่อค้าเป็นเศษเหล็ก

จากเอกสารดังกล่าวทำให้เห็นว่าคดีนี้มีผู้รับสารภาพว่าขับรถชนนายเหลือ 2 คน คือ นายเสริฐ รูปสะอาด สารภาพในปี 2556 และนายสับ วาปี รับสารภาพปี 2557

วันนี้ (24 ม.ค.2560) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสพยายามติดต่อ พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ สัมฤทธิ์สกุลชัย รองผู้กำกับสอบสวน สถานีตำรวจภูเรณูนคร เพื่อขอคำชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ไม่พบตัว และได้รับคำอธิบายว่า พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ ไปปฏิบัติราชการนอกพื้นที่และไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนในช่วงนี้

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสได้สัมภาษณ์ภรรยานายเสริฐถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ภรรยานายเสริฐบอกว่า นายเสริฐขับรถไม่เป็น ขี่เป็นแต่มอเตอร์ไซค์ และเป็นคนซื่อๆ

ขณะที่นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ พยานที่เคยยืนยันในชั้นศาลอุทธรณ์ว่าเห็นผู้ชายลงจากรถขณะเกิดเหตุ เล่าถึงเหตุการณ์ในการให้ปากคำว่า ไม่สามารถจำปี พ.ศ. และสถานีตำรวจภูธรที่เดินทางไปให้ปากคำได้ เพราะเกิดเหตุมานานแล้ว แต่จำได้ว่าขณะนั้นเดินทางไป 3 คน คือ ตัวเอง นายสับ วาปี และนายสุริยา นวนเจริญ หรือครูอ๋อง

นางทัศนีย์บอกว่าได้ยืนยันกับพนักงานสอบสวนว่า เห็นผู้ชายลงจากรถหลังเกิดเหตุรถชนนายเหลือ พ่อบำรุง เสียชีวิต และต่อมานายสับ วาปี ก็ยอมรับว่าเป็นผู้กระทำความผิด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้ เมื่อสอบนางทัศนีย์ว่ามีกระแสข่าวว่านายเสริฐ รูปสะอาด เดินทางไปให้ปากคำด้วย นางทัศนีย์บอกว่าไม่เป็นความจริง เพราะนายเสริฐไม่ได้เดินทางไปด้วย