วันนี้ (10 ก.พ.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหารบราซิลประมาณ 1,200 นาย กระจายกำลังลาดตระเวนตรวจตราพื้นที่ต่างๆ ในรัฐเอสปิริโต ซานโต หลังจากมีรายงานว่า ประชาชนถูกสังหารไปแล้วมากกว่า 100 คน จากเหตุรุนแรงและอาชญากรรม ซึ่งสูงกว่าอัตราการเกิดคดีฆาตกรรมเฉลี่ยในช่วงเดียวกันนี้ของปีที่แล้วถึง 6 เท่า เนื่องจากตำรวจในพื้นที่หยุดงานประท้วงติดต่อกันเป็นเวลา 6 วันแล้ว เพื่อเรียกร้องให้ทางการปรับเพิ่มเงินเดือน
ขณะที่ร้านค้าและโรงเรียนในเมืองวิตอเรีย เมืองเอกของรัฐ รวมถึงการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะภายในพื้นที่ต้องหยุดชะงักเป็นการชั่วคราว โดยสมาพันธ์ผู้ค้าปลีกของรัฐเอสปิริโต ซานโต เปิดเผยว่า ภาคธุรกิจสูญเสียรายได้ไปแล้วกว่า 90 ล้านเรียล หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยประชาชนบางส่วนตัดสินใจเดินทางออกจากเมืองไปอาศัยอยู่นอกพื้นที่เพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย เช่นเดียวกับสื่อท้องถิ่นที่รายงานโดยอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ทางการว่าเกิดเหตุขโมยรถยนต์ถึง 200 คันภายในวันเดียวจากเดิมที่ปกติเกิดเหตุเฉลี่ยวันละ 20 คัน
ด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า ต้องการกำลังทหารจากส่วนกลางเข้ามาเสริมความปลอดภัยในพื้นที่อีกหลายร้อยนาย เพื่อทดแทนกำลังตำรวจที่ประท้วงหยุดงานไปกว่า 1,800 นาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังสร้างความกังวลว่า อาจเกิดการประท้วงเลียนแบบในลักษณะเดียวกันนี้ที่รัฐอื่นๆ ซึ่งประสบปัญหาทางการเงินและไม่สามารถจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ตำรวจและข้าราชการได้ตรงเวลาเช่นเดียวกัน ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวครั้งร้ายแรงที่สุดที่บราซิลกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้