เปิดคำชี้แจง 6 ข้อ "โต้กลับ"ประท้วงขอลดค่าเข้าอุทยาน

สิ่งแวดล้อม
24 ก.พ. 60
08:07
1,667
Logo Thai PBS
เปิดคำชี้แจง 6 ข้อ "โต้กลับ"ประท้วงขอลดค่าเข้าอุทยาน
กรมอุทยานแห่งชาติ ร่อนเอกสารแจง 6 ประเด็นถูกประท้วง ขอลดค่าธรรมเนียมเข้าหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ระบุนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่กังวลค่าบริการราคา 400 บาท ขณะที่ยอดชาวต่างเที่ยวโต ร้อยละ 24 เตรียมถกวันที่ 27 ก.พ.นี้

ความคืบหน้ากรณีกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยว และกลุ่มผู้ประกอบการเรือโดยสารบริการท่องเที่ยว จังหวัดกระบี่ กว่า 500 คน รวมตัวกันชุมนุมประท้วงบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เพื่อเรียกร้องให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ลดอัตราค่าบริการสำหรับบุคคลชาวต่างชาติที่เข้าไปในอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จากปกติชาวต่างประเทศผู้ใหญ่ 400 บาท ให้ลดเหลือ 200 บาท และชาวต่างประเทศเด็ก 200 บาท ให้ลดเหลือ 100 บาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวใช้บริการลดลง ทำให้รายได้ลดลงด้วย 

วันนี้(24 ก.พ. 2560) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ทำหนังสือแจงสื่อมวลชนรวม 6ประเด็น ดังนี้โดยระบุว่า กรมอุทยานฯมีประกาศ ฉบับลงวันที่ 22 พ.ย.2550 เรื่อง การกำหนดอัตราค่าบริการสำหรับบุคคลที่เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งกำหนดค่าบริการสำ หรับบุคคลที่เข้าไปในอุทยานหมู่เกาะพีพี บริเวณเกาะทุกเกาะ อาทิ เกาะพีพีเล เกาะไม้ไผ่ เกาะยูง เกาะปิด๊ะ เกาะปอดะ ดังนี้ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท ดังนั้นการจัดเก็บค่าบริการในอัตราดังกล่าว ได้มีการจัดเก็บมาตั้งปี พ.ศ. 2550 และไม่ได้มีการจัดเก็บเพิ่มเติม เมื่อเปรียบเทียบค่าบริการฯเข้าอุทยานต่างประเทศแล้วยังสูงกว่ามาก

 

 

อุดรูรั่วเงินค่าธรรมเนียม-เกาะพีพีพุ่ง 3 เดือน 182 ล้านบาท

ประเด็นที่ 2 สาเหตุที่เกิดการชุมนุมเรียกร้องให้มีการลดอัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ หมู่เกาะพีพี ก่อนหน้าเดือนพ.ค.2558 กรมอุทยาน ตรวจสอบพบการรั่วไหลของการจัดเก็บเงินค่าบริ การเข้าอุทยานแห่งชาติ โดยเฉพาะทางทะเล จึงแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามผลการจัดเก็บเงินรายได้เพื่อบำรุงรักษาอุทยานแห่งชาติ ส่วนกลาง และคณะทำงานติดตามผลการจัดเก็บเงินรายได้เพื่อบำรุงรักษาอุทยานแห่งชาติ โดยคณะทำงานมีการประชุมหารือร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ในพื้นที่จ.กระบี่ พังงา ภูเก็ต จนได้แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ได้แก่ เช่น การจำหน่ายบัตรค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติออนไลน์ การกำหนดขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว การตรวจบัตรค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ โดยนายตรวจบัตรในพื้นที่เป้าหมาย


นอกจากนี้ ประสานหน่วยงานราชการทุกภาคส่วน วางระบบการตรวจสอบค่าบริการผ่านเข้าอุทยานแห่งชาติ เช่น กรมเจ้าท่า กรมการท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว เป็นต้น โดยจะใช้ระบบติดตามเรือทุกลำด้วยระบบ Radar และระบบ AIS เพื่อตรวจสอบจำนวนเรือที่เข้ามาในอุทยานแห่งชาติ โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น GISDA กรมเจ้าท่า

ทั้งนี้ จากการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บเงินรายได้ฯ ทำให้อุทยาน หมู่เกาะพีพี ซึ่งในปี 2557 เคยเก็บเงินรายได้ เพียง 24 ล้านบาท เป็น 84.9 ล้านบาทในปี 2558 ส่วนปี 2559 จำนวน 561.1 ล้านบาท และระว่างเดือนต.ค.2559-ม.ค.นี้ รวม 3 เดือน จัดเก็บเงินได้แล้วจำนวน 182 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นว่าสถิติเงินรายได้มีการเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

 

 

ตั้งคณะทำงานหารูปแบบเก็บค่าบริการอุทยาน


โดยระหว่างที่มีการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บเงินรายได้และเข้มงวดการจัดเก็บค่าบริการฯเข้าอุทยานแห่งชาติทางทะเล ได้มีกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ จ. กระบี่ รวมตัวกันเรียกร้องเพื่อขอให้ลดอัตราค่าบริการจากปกติชาวต่างประเทศผู้ใหญ่ 400 บาท ให้ลดเหลือ 200 บาท และชาวต่างประเทศเด็ก 200 บาท ให้ลดเหลือ 100 บาท กรมอุทยานฯได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวิชาการจัดการอุทยานแห่งชาติทางทะเล ประกอบด้วยผู้แทนจากภาควิชาการซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของสังคม เช่น ผศ. ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ,ผศ.ดร.ธรรมศักดิ์ ยีมิน ,อ.ศักดิ์อนันต์ ปลาทอง ,ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร และนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นคณะทำงาน ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าว มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณากำหนดรูปแบบการจัดเก็บค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติในอัตราที่เหมาะสมตามหลักวิชาการและเศรษศาสตร์ อย่างไรก็ตาม  สถิตินักท่องเที่ยวของหมู่เกาะพีพี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 – 2559 พบว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ตั้งแต่เดือนต.ค. 2559 ถึงปัจจุบันมีจำนวน 464,667 คน จากจำนวนนักท่องเที่ยว 558,775 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 83.16 ซึ่งเป็นข้อมูลที่แตกต่างจากข้อมูลของกลุ่มผู้ประท้วงที่อ้างว่ามีนักท่องเที่ยวลดลง ทั้งนี้ในช่วงเวลาเดียวกัน 4 เดือน ระหว่างตค.2559-มค.นี้ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น มากกว่าปีที่แล้วถึง 90,000 คน หรือร้อยละ 24 เปอร์เซ็นต์ รวมจำนวน 374,200 คน

 

 

อุทยานฯ นักถกหาคำตอบ 27 ก.พ.นี้


นอกจากนี้ในเอกสาร ยังระบุอีกว่า สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา เบื้องต้นได้มีการประชุมเพื่อหารือตามข้อเรียกร้องดังกล่าว โดยอุทยานหมู่เกาะพีพี จะจัดประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติ (PAC) วัน 27 ก.พ.นี้ เพื่อร่วมกันพิจารณาประเด็นปัญหาจากข้อร้องเรียนดังกล่าว โดยจะนำข้อพิจารณาจากคณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติ (PAC) เสนอกรมอุทยานฯ พิจารณา ให้แล้วเสร็จ ภายใน 20 วัน


ส่วนแนวทางในการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานฯ มีนโยบายการเพิ่มประสิทธิ ภาพด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยว โดยการควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวไม่ให้มีปริมาณมากจนเกินไป เพื่อไม่ให้ทรัพยากรเสื่อมโทรม ตลอดจนการจำหน่ายบัตรค่าบริการแบบออนไลน์ เพื่อให้ควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่ง

ทั้งนี้จากข้อมูลที่ปรากฎ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ไม่ได้วิตกกังวล หรือได้รับความเดือดร้อนจากการจัดเก็บค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ตามที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศกำหนดแต่ประการใด

 

 

“กรณีมีรายงานว่าหัวหน้าอุทยาน หมู่เกาะพีพี ถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลกดดันการทำงานจนต้องขอย้ายออกจากพื้นที่ เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงแต่ประการใด สาเหตุที่แท้จริงเนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมากรมอุทยานแห่งชาติฯมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาที่สะสมมาอย่างยาวนาน และหัวหน้าคนปัจจุบัน มีความมุ่งมั่น แก้ไขปัญหาและสามารถปฎิบัติภารกิจต่างๆที่กรมฯได้มอบหมายอย่างเต็มกำลังความสามารถจนอาจเกิดความเครียด จึงได้ขอโยกย้ายในครั้งนี้”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง