ยังไม่ยกเลิกคำสั่ง คสช.มาตรา 44 คุมวัดพระธรรมกาย

อาชญากรรม
13 มี.ค. 60
11:16
367
Logo Thai PBS
ยังไม่ยกเลิกคำสั่ง คสช.มาตรา 44 คุมวัดพระธรรมกาย
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังไม่ยกเลิกวัดพระธรรมกาย เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษตามมาตรา 44 ของคสช. แต่ผ่อนปรนพระ-ลูกศิษย์ เข้าพื้นที่ ขณะที่ยังประสาน สตม.ตรวจสกัด.พระธัมมชโย ทั้งเส้นทางจุดผ่านแดน และเส้นทางหลบหนีทางธรรมชาติ เริ่มมีคนแจ้งเบาะแส

วันนี้(13 มี.ค.2560)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้พื้นที่วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ยังไม่ยก เลิกประกาศตามมาตรา 44 ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการให้วัดพระธรรมกาย  เป็นพื้นที่ควบคุม มีเพียงการวางกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อรักษาพื้นที่ตามประกาศ ส่วนพระและศิษย์วัดพระธรรมกาย สามารถผ่านเข้าออกวัดได้ตามปกติ

การใช้มาตรา 44 ประกาศให้อำนาจกำหนดพื้นที่ควบคุม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายกับวัดพระธรรมกาย นับเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้วัดพระธรรมกายตกอยู่ภายใต้การตรึงกำลังของเจ้าหน้าที่ได้ต่อเนื่องยาวนานที่สุดถึง 23 วัน ก่อนจะผ่อนกำลังและอนุญาตให้เข้าพื้นที่ได้ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.นี้

ขณะที่บรรยากาศ ที่กองอำนวยการร่วม ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จ.ปทุมธานี ยังเป็นสถานที่ประชุมเพื่อติดตามภารกิจการจับกุมพระธัมมชโย ผู้ต้องหาหลบหนีคดีจามหมายจับ คดีสมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร ในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดย พันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางมาประชุมแต่เช้า

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษก กรมสอบสวนคดีพิเศษ ย้ำถึงความจำเป็นในการใช้มาตรา 44 เพื่อควบคุมดูแลพื้นที่ให้เรียบร้อย ส่วนในการประกาศพื้นที่เพิ่มนั้นอำนาจของหัวหน้า คสช.หากพบข้อมูลเบาะแสเพิ่มเติมของผู้ต้องหาหลบหนีคดี หากมีการหลบหนีออกนอกประเทศก็จะให้ พรบ.ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศในคดีทางอาญา

หลังการตรวจค้น อารามปริสุทโธวานนี้ พบเอกสารการถวายฎีกา รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษเชื่อว่า จุดที่ตั้งตรงนั้นเป็นจุดสำคัญของการวางแผนต่างๆ ของผู้ต้องหา แต่การถวายฎีกาหรือไม่ขอยังไม่พูดถึง เพราะข้อมูลยังไม่สมบูรณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดผู้ถูกออกคำสั่งเรียกเข้ารายงานตัว อ้างอิง ตามคำสั่ง คสช.มาตรา 44 ได้ทยอยเดินทางมารายงานตัวพร้อมทนายความแล้ว ก่อนที่จะครบกำหนดวันในวันที่ 16 มี.ค.นี้ หากพบว่าบุคคลตามคำสั่งเรียกไม่มารายงานตัวตามกำหนดจะพิจารณาถึงเหตุผลจำเป็น หากพบว่ามีเจตนาหลบเลี่ยงจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมกันนี้ดีเอสไอเปิดสายด่วน 1202 หากประชาชนพบเบาะแสเกี่ยวกับพระธัมมชโย ขณะนี้มีผู้แจ้งเบาะแสมาเป็นระยะแล้ว

 

ส่วนการตรวจค้นอารามปริสุทโธ เพื่อติดตามตัวพระไชยบูลย์ สุทธิผล เมื่อวานนี้(12 มี.ค.) ก็ไม่พบตัว พบเพียงร่องรอยเอกสาร และเสื้อแขนยาวสีเหลือง ซึ่งเบื้่องต้นถูกระบุว่า น่าจะเป็นสถานที่ที่ใช้ในการประชุมวางแผน

การตรวจค้นอารามปริสุทโธ ตามหมายค้นของศาลจังหวัดธัญบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้รับข้อมูลเบาะแสจากประชาชนว่า สถานที่ดัง กล่าวอาจเป็นที่หลบซ่อน ของพระไชยบูลย์ สุทธิผล หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมกาย

พ.ต.ต.สุริยา รองอธิบดี ดีเอสไอ เปิดเผยว่า ผลการตรวจค้น พบเอกสารเกี่ยวกับการให้ข่าวสื่อมวลชนของตำรวจ เอกสารเกี่ยวกับการถวายฎีกา คำขอคุ้มครองชั่วคราว คำให้การของพระผู้ใหญ่ของวัดพระธรรมกายและเอกสารอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดค้นพบที่บริเวณห้องนอนของตึก 2 ชั้น จึงน่าเชื่อว่า เป็นสถานที่ประชุมวางแผน

นอกจากนั้นยังพบเสื้อยืดแขนยาวสีเหลือง จำนวน 2 ตัว คล้ายกับที่พระไชยบูลย์ฯ เคยสวมใส่อยู่ในห้องดังกล่าวด้วยและจากการซักถาม ผู้ดูแลสถานที่ อ้างว่าเป็นที่พำนักของพระผู้ใหญ่ในวัดพระธรรมกาย และยืนยันว่าไม่มีบุคคลตามหมายจับมาพัก โดยการตรวจค้นไม่พบบุคคลตามหมายจับ

ส่วนของมาตรการการป้องกัน สกัดการหลบหนีออกนออกประเทศ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม. กล่าวว่า สตม.จะมีการป้องกันบุคคลที่มีหมายจับเข้า-ออกประเทศได้  โดยมีระบบและเทคโนโลยีสมัยใหม่เชื่อมโยงข้อมูลไปยังจุดผ่านแดนต่างๆของประเทศ เพื่อเตือนให้เจ้าหน้าที่ทราบ และทำการจับกุม


สำหรับเส้นทางผ่านแดนธรรมชาติ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบดูแล ทั้งทางน้ำ ทางบก และทางอากาศโดยให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตื่นตัวในการเฝ้าระวัง หากหลบหนีไปจริงก็ต้องออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีความร่วมมือกับไทยในการส่งตัวผู้ร้าย ข้ามแดน และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันตลอดเวลา

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

-
ข่าวที่เกี่ยวข้อง