จ๊อบไทย เผย Gen X, Y, Z จะเปลี่ยนงานใหม่ เหตุไม่พอใจเงินเดือน-หางานทางเว็บไซต์มากสุด

เศรษฐกิจ
18 มี.ค. 60
13:16
2,223
Logo Thai PBS
จ๊อบไทย เผย Gen X, Y, Z จะเปลี่ยนงานใหม่ เหตุไม่พอใจเงินเดือน-หางานทางเว็บไซต์มากสุด
จ๊อบไทยดอทคอม เผยผลสำรวจพบกลุ่มตัวอย่างมีแผนจะเปลี่ยนงานใหม่มากถึงร้อยละ 73 และพบพฤติกรรมการหางานใช้ช่องทางสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น หวังโอกาสก้าวหน้า แนะผู้ประกอบการปรับตัวนำเครื่องมือดิจิทัลมาใช้เพื่อเข้าถึงคนกลุ่มนี้

วันนี้ (18 มี.ค.2560) จ๊อบไทยดอทคอม เปิดเผยผลสำรวจความคิดและแนวโน้มพฤติกรรมของคน 3 เจนเนอเรชั่น ได้แก่ เจนเอ็กซ์ เจนวาย และ เจนแซท จำนวน 6,000 คน ทั่วประเทศ พบกลุ่มตัวอย่างมีแผนจะเปลี่ยนงานใหม่มากถึงร้อยละ 73 และมี 5 เหตุผลที่ทำให้คนต้องการหางานใหม่ คือ ไม่พอใจเรื่องเงินเดือน ร้อยละ 22.86 ไม่มีความก้าวหน้าในสายงาน ร้อยละ 19.33 ไม่พอใจสวัสดิการ ร้อยละ 15.62 ไม่พอใจโบนัส ร้อยละ 10.61 งานที่ทำไม่มีความท้าทาย ร้อยละ 9.84

ทั้งนี้พบว่ากลุ่มคนเจนเอ็กซ์ ยังมีเหตุผลลำดับรองลงมาที่แตกต่างจากกลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะความไม่พอใจเรื่องวัฒนธรรมองค์กรและการเดินทางที่ไม่สะดวก

ขณะที่ เจนแซทซึ่งเป็นกำลังแรงงานรุ่นใหม่ของประเทศในอนาคต มองปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกทำงานอยู่กับองค์กร

ทั้งนี้ เมื่อสำรวจถึงทัศนคติกับการทำงานต่างประเทศ พบว่ากลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยะล 5 ต้องการหรือเลือกที่จะไปทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มคนเจนวาย เพราะคนกลุ่มนี้กล้าเปลี่ยนสถานที่ทำงาน และอยากทำอะไรใหม่ที่ท้าทายมากกว่าคนกลุ่มเจนเอ็กซ์ ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงและย้ายที่ทำงานไปไกลๆ ที่พักอาศัย 

สำหรับกลุ่มประเทศที่คนสนใจอยากไปทำงานมากที่สุด 5 อันดับแรก ยังคงอยู่ในกลุ่มประเทศ ที่เจริญหรือพัฒนาแล้ว คือ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้

นอกจากนี้ ยังมีผู้สนใจไปทำงานในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เนื่องจากต้องการทำงานในตลาดแรงงานดังกล่าว สอดรับกับความต้องการแรงงานไทยเพื่อไปรองรับกับการขยายธุรกิจของกลุ่มทุนไทยในกลุ่มประเทศนี้ รวมถึงการมองหาโอกาสในตลาดอาเซียน

ส่วนจังหวัดที่คนทั้ง 3 เจเนอเรชั่น อยากทำงานมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ ชลบุรี สมุทรปราการ

น.ส.แสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการ จ๊อบไทยดอทคอม ระบุว่าในปัจจุบันพฤติกรรมการหางานเปลี่ยนแปลงไป โดยพบว่าช่องทางการหางานที่คนเลือกใช้มากที่สุด คือ เว็บไซต์หางาน –สมัครงาน ร้อยละ 40 รองลงมา คือ เว็บไซต์ของบริษัทที่ต้องการสมัคร ร้อยละ 17.56 คนรู้จัก ร้อยละ 11.73 วอล์คอินไปสมัครงานที่บริษัท ร้อยละ 7.81 และเว็บไซต์หางานเฉพาะทาง ร้อยละ 5.9 ขณะที่การหางานจะหาผ่านแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน ร้อยละ 57 และหาผ่านคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปร้อยละ 43

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมของคน 3 เจนเนอเรชั่น หันมาใช้ช่องทางสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น ดังนั้นองค์กรหรือผู้ต้องการหาคนมาร่วมงาน ก็จะต้องนำเครื่องมือดิจิทัลดังกล่าว มาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์และเข้าถึงคนกลุ่มนี้มากขึ้น ผนวกกับการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงงานที่ง่ายขึ้น ก็ยิ่งทำให้องค์กรต้องเร่งปรับตัว สร้างความแตกต่างจากราย อื่นๆ เพื่อดึงดูดให้คนอยากเข้ามาร่วมงานด้วย โดยเฉพาะการสร้างคอร์ปอเรทแบ รนด์ดิ้ง ที่จะทำให้ผู้หางานรู้จักและเข้าใจบริษัทได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ซึ่งองค์กรอาจสื่อสารผ่านเรื่องราว คอนเทนท์สั้นๆ ให้เข้าใจง่ายและเข้าถึงคนกลุ่มนี้

น.ส.แสงเดือน กล่าวว่า ข้อมูลจากการสำรวจในครั้งนี้ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถมองเห็นภาพรวมเกี่ยวกับแนวโน้มพฤติกรรม รวมไปถึงความคิดของคนหางาน แล้วนำข้อมูลที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์แก่องค์กรในยุคดิจิทัล ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดแรงงานมีการเปลี่ยนแปลง ตลอดจนเสริมสร้างศักยภาพขององค์กรให้สามารถแข่งขันในตลาดแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ช่องทางที่ถูกเลือกใช้หางาน สมัครงานมากเป็นอันดับต้นๆ คือ เว็บไซต์หางาน สมัครงาน และ เว็บไซต์ของบริษัทที่ต้องการสมัคร

ผลการสำรวจในครั้งนี้ยังสะท้อนความต้องการจากการหางานใหม่ของคนทั้ง 3 เจนเนอเรชั่น โดยพบว่า 3 อันดับแรก คือ โอกาสก้าวหน้าในสายงาน องค์กรที่มีงบประมาณในการส่งเสริมศักยภาพของพนักงาน และเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง