วันนี้ (20 มี.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาคริต แย้มนาม ได้รับเลือกให้เป็นทูตโครงการ "I Care, Change for the better" ช่วยเหลือประมงพื้นบ้านและดูแลระบบนิเวศน์ทางทะเล
นายชาคริต เผยเคล็บลับทำเมนู "ปลาน้ำดอกไม้ต้มเค็มใบมะขามอ่อนโหระพา" โดยแนะนำว่าต้องเลือกปลาสดๆ เท่านั้น ซึ่งครั้งนี้ก็สั่งตรงมาจากเรือประมงพื้นบ้าน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ไซส์ใหญ่และราคาไม่แพง นายชาคริต ย้ำว่า อาหารทะเลสดจากประมงพื้นบ้านแบบนี้ นอกจากจะอร่อยแล้วยังไม่เสี่ยงสารเคมีเหมือนเรือใหญ่แน่นอน
“ชาวบ้านที่หาปลา เจอเรื่องอุตสาหกรรมและนายทุนที่เข้ามาทำให้บางครั้ง ทำให้เขาไม่สามารถทำมาหากินได้ มาช่วยเหลือครอบครัวได้ ซึ่งบางทีเขาอาจคิดว่ามันหมดหนทาง แต่จริงๆแล้ว ผมว่าทุกอย่างมันแบ่งกันอยู่ได้ เพราะเขามีความรู้ที่ส่งต่อกันมาเรื่องหาปลา” นายชาคริต กล่าว
นายชาคริต เปิดเผยว่า ร้านอาหารส่วนตัวเกือบ 10 สาขา เขาได้ติดต่อประมงพื้นบ้าน 5 จังหวัดภาคใต้ เพื่อขอซื้อวัตถุดิบสดๆ ได้แก่ จ.ตรัง สตูล นครศรีธรรมราช พัทลุง และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้คนในท้องถิ่นให้อยู่ได้ ยังเชื่อว่าวิธีนี้จะช่วยลดการทำลายระบบนิเวศ เพราะไม่ได้พึ่งแค่การประมงขนาดใหญ่เท่านั้น
“การหาปลา ตกปลา อุปกรณ์ที่ใช้หากับชนิดของสัตว์ควรอยู่ในปริมาณที่พอดี ไม่ได้ทำลายสัตว์จนเกินไป ไม่ให้เขาสูญพันธุ์ หรือแม้แต่ปูไข่ ต้องรอให้ปูดีดไข่ก่อน ถึงค่อยจับมาได้ ทุกวันนี้ที่ราคาแพงขึ้นเพราะมันหายากขึ้นทุกที” นายชาคริต กล่าว
ชาวประมงพื้นที่จะเป็นคนดูแลชาวประมงคนอื่นด้วย เขาไม่ใช่จับอย่างเดียว เขาดูแลอย่างอื่นดัวย มันจะทำให้สัตวน้ำคืนมา แตถ้าหากว่าใช้วิธีการจับอย่างดียวๆ แล้วไม่ดูแลสัตว์น้ำก็จะหายไป อย่างตอนนี้ถ้าเกิดว่ารัฐบาลพยายามกวดขันเครื่องมือที่ผิดกฎหมายจะทำให้ทะเลไทยฟื้นคืนกลับมา” น.ส.เสาวลักษณ์ ประทุมทอง ผู้ดูแลโครงการ "ร้านคนจับปลา" กล่าว
นอกจากตำแหน่งทูตโครงการ "I Care, Change for the better" ที่ได้รับขององค์การอ็อกแฟม ประเทศไทย นายชาคริตยังมีหน้าที่ช่วยเหลือ "กลุ่มวานีตา" ผู้หญิงที่สูญเสียผู้นำครอบครัวจากความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งต้องลงพื้นที่ไปให้ความรู้ ส่งเสริมอาชีพและส่งต่อความช่วยหลือต่อไป