อุตฯก่อสร้างวอนรัฐบาลดูแลราคายางมะตอย หลังปรับขึ้นกว่าเท่าตัว

เศรษฐกิจ
20 มี.ค. 60
20:42
234
Logo Thai PBS
อุตฯก่อสร้างวอนรัฐบาลดูแลราคายางมะตอย หลังปรับขึ้นกว่าเท่าตัว
ตัวแทนอุตสาหกรรมก่อสร้าง เรียกร้องรัฐบาลดูแลราคายางมะตอย หลังราคาเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว วอนรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจช่วยหาทางออก คาดกระทบงบประมาณก่อสร้างภาครัฐ

วันนี้ (20 มี.ค.2560) นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาชิกของสมาคมฯและผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างได้ประสบกับปัญหาเกี่ยวกับราคายางมะตอยที่ใช้ในงานก่อสร้าง หรือ ยางแอสฟัลท์ จนได้รับความเดือดร้อนในวงกว้าง เนื่องจากผู้จำหน่ายได้ปรับราคาอย่างต่อเนื่องโดยในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ราคาสูงขึ้นเกือบ 1 เท่าตัว

หากเปรียบเทียบจากช่วงเดือน ก.พ.59 ราคาจำหน่ายรวมค่าขนส่งและภาษีมูลค่าเพิ่มยังอยู่ที่ตันละ 10,593 บาท ขณะที่ปัจจุบันเดือน ก.พ.60 ราคาจำหน่ายกลับเพิ่มขึ้นไปถึงตันละ 20,223 บาท ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อราคาค่าก่อสร้างที่ได้ทำการประมูลและลงนามสัญญาไปแล้ว หรืออยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้าง เนื่องจากผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นกว่าราคากลางที่ประมูลได้ แม้ทางหน่วยงานราชการจะกำหนดให้มีค่า K เพื่อชดเชยกรณีราคาวัสดุเปลี่ยนแปลง แต่ยังมีความล่าช้าในการเบิกจ่ายและเบิกไม่ได้เต็มจำนวนจริงจึงส่งผลกระทบต่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการด้านการเงินของผู้ประกอบการก่อสร้าง เพราะค่า K ไม่สามารถรองรับส่วนต่างที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องของดอกเบี้ย

ล่าสุดได้ทำหนังสือถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อให้พิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือโดยด่วนแล้ว

ขณะที่ นายพงษ์ศักดิ์ ธนศรีวนิชชัย อดีตอุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ กล่าวเพิ่มเติมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่า ในอดีตเวลายางมะตอยหรือยางแอสฟัลต์จะปรับราคาขึ้น เมื่อน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ตั้งต้นก่อนจะมาเป็นยางมะตอยนั้นปรับขึ้น แต่หลายเดือนที่ผ่านมาการปรับราคายางมะตอยของผู้จำหน่ายไม่สอดคล้องกับการอัตราการขึ้น-ลงราคาของน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างเห็นได้ชัด

โดยเฉพาะช่วงเดือน ส.ค.59 - ก.พ.60 ที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นประมาณร้อยละ 20 แต่ราคายางมะตอยปรับราคาขึ้นเกือบร้อยละ 100 หรือ 1 เท่าตัว ปัญหาที่เกิดขึ้นนอกจากสร้างความเดือดร้อนให้แก่เอกชนผู้รับเหมาแล้วยังถือเป็นภาระต่อรัฐบาลในการจัดหางบประมาณเพิ่มเติมเพื่อชดเชยค่า K ให้แก่เอกชนอีกด้วย

หากคำนวณตามมูลค่าโครงการก่อสร้างหรือซ่อมแซมถนนของทางภาครัฐที่ออกมาในช่วง 1-2 ปีนี้ ทั้งของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท อบต. หรือ อบจ.ต่างๆ เชื่อว่ารัฐบาลจะต้องเสียงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับค่า K ในการชดเชยค่ายางมะตอยไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า เป็นที่น่าสังเกตอีกว่าในช่วงปลายปีคาบเกี่ยวถึงต้นปี ซึ่งถือเป็นช่วงหมดฝน โครงการก่อสร้างถนนสามารถเร่งดำเนินการได้ในช่วงนี้ ทำให้ความต้องการยางมะตอยก็สูงขึ้นไปด้วย

ขณะเดียวกันผู้ประกอบธุรกิจยางมะตอยที่มีอยู่เพียงไม่กี่รายในประเทศไทย ได้พร้อมใจกันขึ้นราคายางมะตอย โดยอ้างว่าโรงกลั่นน้ำมันบางแห่งในประเทศปิดซ่อมบำรุง ส่งผลให้ผลผลิตลดลงจึงจำเป็นต้องปรับราคาขึ้น เฉพาะเดือน ธ.ค.59 ถึงเดือน ม.ค.60 ยางมะตอยชนิด AC 60/70 จากราคา 8,750 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้นเป็น 13,500 บาทต่อตัน พอมาเดือน ก.พ.60 ก็เพิ่มขึ้นอีกเป็น 17,600 บาทต่อตัน แต่เมื่อกำลังการผลิตกลับมาปกติได้ปรับลดราคาลงเป็น เป็น 16,600 บาทต่อตัน จะเห็นได้ชัดว่า เวลาปรับราคาขึ้นครั้งละ 4-5,000 บาท แต่เมื่อปรับราคาลงกลับปรับลดเพียง 1,000 บาท โดยไม่มีมาตรฐานใดมาอ้างอิง

ดังนั้นภาครัฐควรเร่งพิจารณาหามาตรการควบคุมราคายางมะตอยให้มีมาตรฐาน มิเช่นนั้นก็จะสร้างความเสียหายวงกว้างมากขึ้น หรืออาจจะจำเป็นต้องนำยางมะตอยกลับเข้าเป็นสินค้าควบคุม เพื่อให้มีการกำหนดราคาที่สมเหตุสมผลกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และป้องกันข้อครหาเรื่องการฉวยโอกาสของทางผู้ประกอบธุรกิจยางมะตอย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง