เพราะคิ้วเป็นมงกุฏของใบหน้า เทรนด์ความงามทุกวันนี้จึงต้องใส่ใจคิ้วเป็นพิเศษ การสักคิ้ว จึงเป็นทางลัดที่กำลังเป็นกระแสมาแรงในภูมิภาคอาเซียน ถึงขั้นจัดแข่งขันประกวดสักคิ้วนานาชาติขึ้น โดยจัดในประเทศไทยเป็นครั้งแรก
หมดยุคของคิ้วปลิงแล้ว เพราะเทรนด์คิ้วที่ฮิตสุดๆ ตอนนี้คือคิ้วเรียงเส้นเป็นธรรมชาติ แบบที่ในวงการเรียกกันว่า คิ้วสามมิติ หรือถ้าแบบไหนที่ฝนเส้นละเอียดชัดก็เอาไปเลยหกมิติ เป็นการประกวดสักคิ้วชิงแชมป์เอเชียระดับนานาชาติ ที่ถ้าใครผ่านเกณฑ์นี้ ก็ได้ไปต่อ แต่ถ้าใครทำออกมาแล้วดูเป็นปื้น ไม่คม กรรมการก็ทิ้งลงถุงดำทันที เพราะถ้าทำพลาดแล้วไปอยู่บนหน้าคนจริงๆ ก็คงไม่ง่ายที่จะแก้ไข การตัดสินเป็นไปอย่างเข้มข้น เพราะคิ้วเป็นมงกุฏของหน้า งานคิ้วจึงต้องคิดแล้วคิดอีก
นายธนพล นิ่มทัยสุข (เติ้ล) นักแสดงหนุ่ม กล่าวว่ามีหลายเหตุผลที่ตัดสินใจทำคิ้ว อันดับหนึ่งก็เพราะแผลเป็นที่ปลายคิ้ว ทำให้ต้องพึ่งเมคอัพเวลามีละคร แต่ติดตรงที่เล่นคิวบู๊ทีไรคิ้วหายทุกที เลยตัดสินใจสักถาวร แก้ปัญหาต้องเติมคิ้วอยู่บ่อยๆ และเจ้าตัวบอกว่าเหมือนได้ของเเถม เสริมโหงวเฮ้งไปในตัว ปรับปรุงใบหน้าเล็กๆ น้อยๆ แต่ช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น
“ มีคนทักเยอะว่าถ้าคิ้วแตกจะเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ ก็เลยสักคิ้ว ซึ่งทำครั้งเดียวได้ผล 2 อย่างเลย” นายธนพล กล่าว
กระแสการสักคิ้วได้รับความนิยมอย่างมาก การประกวดสักคิ้วครั้งนี้ มีกรรมการและผู้ร่วมแข่งแทบจะครบ 10 ประเทศอาเซียน บอกได้ถึงเทรนด์การเสริมความงามที่อยู่ในภูมิภาคอาเซียน ถึงจะเทรนด์เดียวกัน แต่สไตล์นิยมไม่เหมือนกัน บ้านเราอิงเทรนด์คิ้วเกาหลี เรียวตรง ขณะที่จีน เน้นคิ้วเรียวโค้ง
“ตอนนี้เปิดสมาคมนักออกแบบตกแต่งคิ้วแล้ว เราพาคนไทยไปแข่งขันต่างประเทศ แข่งขันที่จีน 3 รอบ ครั้งแรกได้ที่ 3 แต่ครั้งต่อๆ ไป ได้ที่ 1 ที่ 2 ด้วยความชำนาญนี้เรานำวิชาสักคิ้วไปถ่ายทอดต่อให้กับชาวเวียดนาม” นางจุไรวรรณ สุดพงษ์ อุปนายกสมาคมนักออกแบบตกแต่งคิ้วประเทศไทย กล่าว
ผู้นำเทรนด์ตัวจริงเรื่องการสักคิ้วต้องยกให้เมืองจีน ช่างทำคิ้วของไทยต่างบินไปเอาเทคนิคถึงถิ่นรวมถึงได้ลูกค้าจากที่นั่นมาเสมอ นี่อาจเป็นความงามสูตรเร่งรัด แต่จะต้องคำนึงเรื่องความปลอดภัยของเครื่องมือและความสะอาด
