ระทึกภาพ "ช้างชนช้าง" กลางอ่างเก็บน้ำบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

สิ่งแวดล้อม
1 เม.ย. 60
12:23
1,452
Logo Thai PBS
ระทึกภาพ "ช้างชนช้าง" กลางอ่างเก็บน้ำบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ช่างภาพอิสระ บันทึกวีดิโอความยาว 1.50 นาทีเป็นภาพช้างตัวผู้ 2 ตัวไล่ชนกันกลางอ่างเก็บน้ำสายศร อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อแย่งตัวเมีย ท่ามกลางสายตานักท่องเที่ยว ด้านหน.เขาใหญ่ ระบุเป็นพฤติกรรมปกติ แต่เริ่มพบช้างเข้าใกล้จุดกางเตนท์บ่อยๆอาจทำรั้วไฟฟ้าป้องกัน

เปิดวินาที "ช้างชนช้าง"กลางอ่างเก็บน้ำสายศร เขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมาซึ่งถ่ายได้โดย ช่างภาพสัตว์ป่าดาวรุ่ง ซัง Juthamas Wangaryattawanich ฝ่ายสื่อสารองค์กร มูลนิธิกระต่ายในดวงจันทร์ ซึ่งถือเป็น คลิป wildlife ที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่เคยมีมาในไทย ช้างป่าเขาใหญ่ สู้กันในอ่างเก็บน้ำสายศร (โลเกชั่นยอดฮิตของพรีเวดดิ้ง)มีความยาว 1.50 นาที ท่ามกลางสายตาของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก


วันนี้(1 เม.ย.2560) นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บอกว่า ภาพช้างชนกันเป็นพฤติกรรมของช้างที่หาดูได้ยาก บนเขาใหญ่เคยเจอและถ่ายภาพวีดีโอได้ 2-3 ครั้ง ซึ่งลักษณะที่ช้างชนกัน เพื่อการแก่งแย่งพื้นที ต้องการอาณาเขต แต่กรณีที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม บริเวณอ่างเก็บน้ำสายศร เป็นการต่อสู้ ของช้างตัวผู้ 2 ตัว เพื่อแย่งตัวเมียซึ่งเดิมช้างตัวเมียกับช้างตัวผู้ 2 ตัวเดินหากินอยู่ใกล้อ่างเก็บน้ำ แต่จู่ๆมีช้างตัวผู้อีกตัวหนึ่ง มีกำลังมากกว่า วิ่งไล่กันมาจนลงไปชนกันในอ่างน้ำนานเกือบ 1 นาที ต่อจากนั้นพอต่อสู้กันเสร็จก็เดินกลับเข้าป่าไป

 

 

นายครรชิต บอกว่า บริเวณอ่างเก็บน้ำสายศร เป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวมาชมธรรมชาติ และมักจะใช้ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งอยู่บ่อยๆ และบางครั้งโชคดีก็จะเจอสัตว์ป่าหลายชนิดลงมาหากินใกล้อ่างเก็บน้ำ แต่ยอมรับว่าขณะนี้ประชากรช้างบนเขาใหญ่มีมากถึง 300 ตัว ออกหากินหลายจุด เช่นทุ่งหญ้าหนองผักชี แถวใกล้น้ำตกเหวสุวัต และบางครั้งพบช้างเดินมายังลานกางเต้นท์

ขณะนี้นอกจากจะเตือนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเขาใหญ่ทั้งโดยเจ้าหน้าที่เอง ป้ายเตือนต่างๆเรื่องระวังสัตว์ป่าแล้ว ในอนาคตกำลังหารือกับกลุ่มนักวิชาการด้านสัตว์ป่าว่าอาจต้องมี รั้วไฟฟ้าในจุดเสี่ยงที่ช้าง และสัตว์ป่าที่เข้ามาใกล้ชิดจุดเสี่ยงที่จะไม่ปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวมากเกินไป เพราะยอมรับว่าตอนนี้บนเขาใหญ่สัตว์ป่า ช้างและอีกหลายชนิดออกมาไม่เลือกที่ และเลือกเวลาแล้ว การเที่ยวจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง