ตำรวจรับตัวผู้ต้องหาเครือข่าย "โชกุน" คดีหลอกทัวร์ญี่ปุ่นสอบสวน

อาชญากรรม
18 เม.ย. 60
12:35
465
Logo Thai PBS
ตำรวจรับตัวผู้ต้องหาเครือข่าย "โชกุน" คดีหลอกทัวร์ญี่ปุ่นสอบสวน
วันนี้ ทหารมณฑลทหารบกที่ 11 ควบคุมผู้ต้องหา 8 คนเครือข่ายโชกุน ส่งพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ข้อหาช่อโกง ขณะที่ดารา และนักแสดง ที่ปรากฎตัวในรูปถ่ายเข้าให้ปากคำ ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

วันนี้ (18 เม.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหารมณฑลทหารบกที่ 11 ควบคุมตัวผู้ต้องหาเครือข่ายโชกุนหรือ นางสาวพสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง และต้มตุ๋นทัวร์ญี่ปุ่น จำนวน 8 คนส่งพนักงานสอบสวนกองปราบปราม โดยมีพลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รับมอบและทำการแจ้งข้อกล่าวหา 

พลตำรวจเอกศรีวราห์  เผยภายหลังจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งตามหมายจับทั้ง 8 คนในเบื้องต้น ที่เป็นเครือข่ายเดียวกับ นางสาวพสิษฐ์  เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชนและซ่องโจร ภายหลังหลอกสมาชิกทัวร์ท่องเที่ยวไปประเทศญี่ปุ่นกว่า 1,000 คน เมื่อช่วงวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา

เบื้องต้น มีผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ จำนวนนี้คือ นางมณฑญาณ์ นิรันดร มารดาของนางสาวพสิษฐ์ ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชักชวนสมาชิกท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น และไม่ใช่สมาชิกในเครือข่าย และเชื่อว่านางสาวพสิษฐ์ ไม่ได้ทำสิ่งผิดกฎหมาย

ขณะที่ผู้ต้องหาบางคน ทำหน้าที่เป็นหาสมาชิก และจำหน่ายอาหารเสริม ได้เงินจากผลกำไร หรือคอมมิดชั่น กว่า 2 แสนบาท อ้างว่าเพิ่งทำมาตั้งแต่เดือนมกราคม และเคยได้ไปเที่ยวต่างประเทศมาแล้ว 2 ครั้ง สำหรับรายได้ หรือการจ่ายเงินเข้าในบัญชีของบริษัท นางสาวพสิษฐ์จะเป็นผู้ดูแลเองทั้งหมด นางสาวพสิษฐ์เป็นเพียงสมาชิกเท่านั้น อ้างว่ายังมีนายทุนที่เป็นชาวต่างชาติเป็นผู้ควมคุมทุนและสั่งการอยู่เบื้องหลัง

 

ยึดทรัพย์สิน-บัญชีเงินฝาก "โชกุน"

 

ส่วนทรัพย์สินของ ซินแสโชกุน ขณะนี้ถูกเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือ ปปง. อายัดไว้ตรวจสอบแล้ว ประกอบด้วย เงินฝากรถยนต์ 6 คัน ห้องพักคอนโดมิเนียม และเงินฝากในบัญชีอีกประมาณ 3 ล้านบาทด้วย

พลตำรวจตรี สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บังคับการกองปราบปราม บอกว่า ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินคดีนางสาวพสิษฐ์ ว่า นอกจากจะถูกดำเนินคดี ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนกรณีลอยแพ ผู้เสียหายทัวร์ญี่ปุ่น

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกว่า คดีนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว กว่า 300 คน อยู่ระหว่างตรวจสอบการโอนย้ายทรัพย์สินไปให้บุคคลอื่น เบื้องต้นพบว่าถูกโอนไปบางส่วนแล้ว โดยจะดำเนินคดีกับบุคคลที่รับโอนทรัพย์สินทั้งหมด และขอเตือนผู้รับโอนว่ามีความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินด้วย ดังนั้น ใครที่ได้รับทรัพย์สินไปขอให้รีบแสดงตัว


ดารา-นักแสดงเข้าให้ปากคำปฏิเสธไม่เกี่ยวข้อง


นอกจาก ออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้ว ตำรวจได้เร่งติดตามทรัพย์สินและเยียวยาผู้เสียหาย รวมถึง ตรวจสอบว่ามีใครอยู่เบื้องหลังซินแสโชกุลหรือไม่ พร้อมทั้งสอบปากคำดารา นักแสดง หลังพบรูปถ่ายกับซินแสโชกุนตามสถานที่ต่างๆ ว่าเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายหรือมีส่วนรู้เห็นกับซินแสโชกุลหรือไม่

พนักงานสอบสวนสอบปากคำ นายฉัตรมงคล บำเพ็ญ หรือ ติ๊ก นักแสดง ว่าเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายหรือผู้เกี่ยวข้องหรือไม่ เนื่องจากพบหลักฐานว่ามีรายชื่อเป็น 1 ใน 7 คน ที่นั่งเครื่องบินเช่าเหมาลำไปยังที่ต่างๆด้วย โดยนายฉัตรมงคล ยืนยันว่า มีบุคคลแนะนำว่าบริษัทของนางสาวพสิษฐ์ จัดทัวร์ไปประเทศญี่ปุ่นในราคาถูก จึงได้ซื้อทัวร์ไป แต่เมื่อถึงวันนัดกลับไม่สามารถไปได้จริง โดยยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ชักชวนบุคคลอื่นต่อ และไม่ได้ร่วมลงทุนทำธุรกิจ สนใจแค่ไปทัวร์เท่านั้นเพราะมีราคาถูก

เช่นเดียวกับ น.ส.มินร์ลดา เจริญทวีรัตน์ หรือ อุ๊ ดารานักแสดงชื่อดัง เข้าพบพนักงานสอบสวน กองปราบปรามเพื่อให้ปากคำแสดงความบริสุทธุ์ใจหลังปรากฎรูปถ่ายเมื่อครั้งไปเที่ยวหัวหินกับซินแสโซกุน โดย น.ส.มินร์ลดา ยืนยันว่า ไม่เคยร่วมธุรกิจ หรือถ่ายรูปโปรโมทผลิตภัณฑ์ชักชวนให้ผู้อื่นร่วมลงทุน และไม่ได้ตกเป็นผู้เสียหายกรณีนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง