"ศูนย์ซูพีเรีย" รับเป็นเจ้าของอสุจิแช่แข็งทั้ง 6 หลอด

สังคม
25 เม.ย. 60
07:10
2,702
Logo Thai PBS
 "ศูนย์ซูพีเรีย"  รับเป็นเจ้าของอสุจิแช่แข็งทั้ง 6 หลอด
สบส.เผยผลตรวจคลินิกไทย ที่มีชื่อเอี่ยวลักลอบขน "อสุจิ" ส่งประเทศเพื่อนบ้าน พบว่ามาจากศูนย์ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที ขณะที่ผู้บริหารปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับคลินิกรับอุ้มบุญ ในประเทศลาว เตรียมขยายผลต่อเจ้าของเชื้อชาวจีน-เวียดนาม

วานนี้ (24 เม.ย.2560) นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบคลินิกสถานพยาบาลดูแลผู้มีบุตรยาก 2 แห่ง ซึ่งเป็น 2 ใน 4 คลินิก ที่นายนิธินนทน์ ศรีธานิยานันท์ ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวบริเวณด่านชาย แดนไทย-ลาว จังหวัดหนองคาย อ้างว่า ไปรับถังไนโตรเจนบรรจุอสุจิมา ก่อนเตรียมส่งไปยังปลายทาง แต่ถูกจับได้

จากการตรวจสอบเอกสารเพิ่มของ สบส. พบว่าอสุจิทั้ง 6 หลอด มาจากศูนย์ซูพีเรีย เอ.อาร์ที ทั้งหมด เป็นของชาวจีน 3 หลอด และเวียดนาม 3 หลอด และมีผู้รับมอบอำนาจเป็นคนไทย เบิกถอนอสุจิที่ฝากไว้ออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน คือวันที่ 17 เม.ย.และวันที่ 19 เม.ย.นี้ครั้งละ 3 หลอด



นายแพทย์ธงชัย ระบุว่า ส่วนคลินิกเจตนินจากการตรวจสอบพบว่า เป็นผู้ตรวจอสุจิ และผลเลือด ของเจ้าของเชื้ออสุจิ 2 คนนี้ และปฎิเสธการซื้อขายอสุจิข้ามชาติ เช่นเดียวกับ คลินิก 2 แห่ง ที่ถูกพาดพิงก่อนหน้านี้ คือ ไอ-เบบี เฟอร์ทิลิตี และเฟิร์ส เฟอร์ทิลิตี  เป็นการพาดพิงจากคำให้การของผู้ต้องหา แต่จากการตรวจสอบเอกสาร ไม่พบว่าเกี่ยวข้อง

แต่อย่างไรก็ตาม จากเอกสารชัดเจนว่า ผู้รับมอบฉันทะ จากคู่สามีภรรยาชาวจีน และชาวเวียด นาม อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยไม่แจ้งงว่าจะนำอสุจิออกไปที่ไหน ทางสบส.เตรียมแจ้งความกับตำรวจหนองคายว่าผู้รับมอบฉันทะ จะมีส่วนรู้เห็นกับการลักลอบขนอสุจิออกนอกประเทศหรือไม่ 

ขณะที่นายศรายุทธ อัสสมกร ผู้บริหารศูนย์ซูพีเรียฯ บอกว่า ไม่รู้จัก วีไอพี คลินิก ที่รับอุ้มบุญในประเทศลาว หรือให้ความร่วมมือเรื่องการส่งแพทย์ หรือไปร่วมเปิดคลินิกในต่างประเทศ ส่วนการตรวจสอบอสุจิแช่แข็งเป็นของทางศูนย์ทั้ง 6 หลอด และเจ้าของอสุจิเป็นผู้มาแสดงความประสงค์ย้ายออกด้วยตัวเอง แต่วันที่มารับของ ได้มอบฉันทะให้ผู้แทนชาวไทยมารับมอบ จึงต้องการให้ตำรวจช่วยตรวจสอบ ขณะที่ทางศูนย์จะมีมาตรการป้องกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป

 

ส่วนการขยายผลว่าผู้มีส่วนเกี่ยวโยงเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนโดยจะพิจารณาใน 4 ข้อ คือ 1.เจ้าของอสุจิ 2.คนนำออก 3.คนที่ถูกกล่าวอ้างว่ามารับตัวถังบรรจุอสุจิ และ 4.ชื่อที่ระบุถึงสถานที่หรือคลินิกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทาง สบส.ก็จะตรวจสอบได้ในภาพรวม และจะส่งให้พนักงานสอบสวน โดยในส่วนการตรวจสอบว่าถูกต้องหรือไม่ คาดว่า 1-2 วันน่าจะทราบ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง