วันนี้(26 พ.ค.2560) กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ในช่วงวันที่ 25-28 พ.ค.นี้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ในระยะแรกเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ จากนั้นภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จะได้รับผลกระทบ ส่วนภาคตะวันออกและภาคใต้จะมีฝนตกต่อเนื่องตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำขังรอระบายในกรุงเทพมหานคร แม้จะสามารถระบายน้ำได้แล้ว แต่ยังต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า วันนี้อาจมีฝนตกลงมาอย่างหนักอีก
พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการระบานน้ำที่ถนนรัชดาภิเษก พร้อมระบุผ่านเฟซบุ๊กชื่อ "ผู้ว่าฯอัศวิน" ว่า ตัวเองและเจ้าหน้าที่ กทม. จะทำงานกันอย่างสุดความสามารถ และขอขอบคุณประชาชนที่เข้าใจ เห็นใจ และให้กำลังใจในการทำงาน โดยยืนยันว่า ยินดีรับข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงาน
สำหรับการระบายน้ำท่วมขัง หลังจากฝนตกหนักเมื่อวานนี้ (25พ.ค.) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า แผนเดิมที่ กทม.กำหนดไว้ในการระบายน้ำ คือ ต้องใช้เวลาไม่เกิน1-2 ชั่วโมง เมื่อฝนหยุดตก แต่สำหรับเมื่อวานนี้ ฝนตกต่อเนื่องและพื้นที่รับน้ำตามธรรมชาติ คือคลองสายต่างๆซึ่ง กทม.ได้เตรียมความพร้อมลดระดับน้ำในคลองไว้แล้ว มีน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนการระบายน้ำต้องใช้เวลายาวนาน
โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ถนนลาดพร้าวและพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากเป็นจุดที่เกิดฝนตกหนักมากที่สุด และยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป และมีการคาดการณ์ว่า จะมีฝนตกหนักใน กทม.ไปจนถึงวันที่ 28 พ.ค.นี้
มีรายงานว่า ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของกรุงเทพมหานคร ที่สถานีสูบน้ำพระโขนงและพื้นที่ซอยลาซาล-แบริ่ง พร้อมพบประชาชนในบริเวณดังกล่าวด้วย
ขณะที่ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ลงเกาะติดการระบายน้ำที่คลองลาดพร้าว พบว่าหลังจากฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ช่วงเที่ยงวันนี้ ระดับน้ำได้ไหลกลับเข้าท่วมเขตวัดและพื้นที่ชุมชนอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่จนท.ทหาร และเจ้าหน้าที่จากกทม. เร่งเสริมแนวกระสอบทรายริมคลองลาดพร้าวเพิ่ม หลังในตกหนัก น้ำในคลองทะลักเข้าวัดลาดพร้าวอีกครั้ง
ส่วนภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธาร ณภัย บอกว่า ตั้งแต่วันที่ 16-23 พ.ค.นี้ มีพื้นที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 15 จังหวัด สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 13 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์น้ำไหลหลากในพื้นที่ภาคเหนือ 2 จังหวัด คือ ที่จังหวัดสุโขทัย และลำปาง
