"ไอเอส" เรียกร้องสมาชิกโจมตี สหรัฐฯ-ยุโรป -ออสเตรเลีย-ฟิลิปปินส์ ตลอดเดือนรอมฎอน

ต่างประเทศ
13 มิ.ย. 60
13:14
689
Logo Thai PBS
"ไอเอส" เรียกร้องสมาชิกโจมตี สหรัฐฯ-ยุโรป -ออสเตรเลีย-ฟิลิปปินส์ ตลอดเดือนรอมฎอน
มีคลิปเสียงเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ที่อ้างว่าเป็นโฆษกของกลุ่มไอเอส เรียกร้องให้ผู้ศรัทธาออกมาก่อเหตุในช่วงเทศกาลถือศีลอด ในพื้นที่สหรัฐฯ ยุโรป รัสเซีย ออสเตรเลีย อิรัก อิหร่าน และฟิลิปปินส์

วันนี้ (13 มิ.ย.2560) มีการเผยแพร่คลิปเสียงที่อ้างว่ามาจากโฆษกของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ผ่านช่องทางออนไลน์ เรียกร้องให้ผู้เลื่อมใสศรัทธาเปิดการโจมตีเป้าหมายในสหรัฐอเมริกา ยุโรป รัสเซีย ออสเตรเลีย อิรัก อิหร่านและฟิลิปปินส์ ในช่วงเดือนรอมฎอน หรือเดือนแห่งการถือศีลอด ซึ่งกินเวลาตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม-24 มิถุนายน

นอกจากนี้ข้อความดังกล่าว ยังสรรเสริญเหตุโจมตี 2 ครั้งซ้อนในกรุงเตหะรานของอิหร่าน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 17 คน
ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นคลิปเสียงจากกลุ่มไอเอสจริงหรือไม่ แม้ว่าเสียงในคลิปจะเป็นเสียงเดียวกันกับคลิปก่อนหน้านี้ ที่อ้างว่ามาจากโฆษกของ ไอเอสเช่นกัน

ด้านเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า นายอาบู บาการ์ อัล-แบกห์แดดี ผู้นำกลุ่มไอเอส วัย 46 ปี ที่ตั้งตัวเป็นคอลีฟะห์ของรัฐอิสลาม ครอบคลุมพื้นที่ทั้งซีเรียและอิรัก ขณะนี้ได้กลายเป็นผู้ร้ายหลบหนีการไล่ล่าของกองกำลังพันธมิตร พร้อมค่าหัว 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 850 ล้านบาท ในการชี้เบาะแสนำตัวเขามาดำเนินคดี ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ผู้นำ ไอเอสอาจจะต้องระวังตัวจากคนรอบข้างให้ดี เนื่องจากมีเงินค่าหัวที่สูงมาก

ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกาเคยตั้งค่าหัวมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แบบนี้มาแล้ว เพื่อไล่ล่าโอซามะ บิน ลาเดน อดีตผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์ และผู้สืบทอดตำแหน่งคือ อัยมาน อัล ซาวาฮีรี รวมถึงอดีตผู้นำอิรักอย่างซัดดัม ฮุสเซน ซึ่งขณะนี้ยังเหลือซาวาฮีรีที่ยังคงอยู่ในระหว่างการไล่ล่า

การตั้งค่าหัวในลักษณะนี้ สำหรับกรณีของบิน ลาเดน กับ ซัดดัม ฮุสเซน ไม่ได้ทำให้คนใกล้ชิดหันมาหักหลังเพราะเงินรางวัลก็จริง แต่ก็ทำให้การหลบหนีเป็นไปอย่างยากลำบาก ส่งผลให้เกิดแรงกดดันเพิ่มมากขึ้น และในกรณีของผู้นำ ไอเอส ทำให้เขาต้องเปลี่ยนที่หลบซ่อนทุกๆ 72 ชั่วโมง

ทางการสหรัฐอเมริกาและอิรัก เชื่อว่า อัล-แบกห์แดดี ทิ้งให้คนอื่นคอยบัญชาการการสู้รบ ขณะที่ ไอเอส กำลังเพลี่ยงพล้ำในสมรภูมิการสู้รบ ทั้งในโมซูลของอิรัก และในเมืองรัคคาของซีเรีย

โดยนายอัล-แบกห์แดดี เลือกที่จะหลบหนีเพื่อรักษาชีวิตตัวเอง โดยใช้ยานพาหนะธรรมดาอย่างรถเก๋งหรือรถปิ๊กอัพ และมีผู้ติดตามเพียงไม่กี่คนเพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าความสนใจ

ผู้เชี่ยวชาญยังชี้ว่า อัล-แบกห์แดดี หมดสิทธิ์ที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นคอลีฟะห์ เพราะไม่มีดินแดนใดให้ปกครอง ตอนนี้สถานะของเขาเป็นได้แค่ผู้ร้ายหลบหนี ส่วนจำนวนผู้สนับสนุนก็ร่อยหรอลงทุกขณะ ท่ามกลางการสูญเสียพื้นที่ยึดครองจากการเพลี่ยงพล้ำในสมรภูมิรบ ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่หลายฝ่ายมองว่าแม้ว่าตอนนี้ อัล-แบกห์แดดี จะกำลังหนีหัวซุกหัวซุน แต่ก็จะต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าทางการจะสามารถจับกุมหรือสังหารเขาได้สำเร็จ

กองกำลังร่วมและกองกำลังพิเศษ เพื่อไล่ล่า อัล-แบกห์แดดี โดยเฉพาะ ซึ่งประกอบไปด้วยหน่วยงานชั้นนำ ทั้ง CIA หน่วยข่าวกรองต่างๆ หน่วยสอดแนมผ่านดาวเทียม และอื่นๆ อีกมาก

แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ยังไม่เพียงพอที่จะหักล้างอิทธิพลของผู้นำไอเอสได้ บรรดานักรบยังคงต่อสู้เพื่อเขาต่อไป และสุดท้ายถึงแม้ว่าเขาจะถูกจับหรือสังหารในที่สุด แต่ทั้งเขาและกลุ่ม ไอเอส ก็จะยังคงเป็นตำนานและส่งอิทธิพลต่อไป จนกว่าจะกำจัดแนวคิดมุสลิมสุดโต่งได้สำเร็จ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง