วันนี้(24ก.ค.2560) พระภิกษุอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี นำทีมข่าวไทยพีบีเอส สำรวจวัดในอำเภอ พบว่ายังมีวัดที่ยังขึ้นป้ายเขตปลอดเจ้าคณะอำเภอ แม้จะมีกระแสกดดันให้นำป้ายลง เพราะถูกมองว่าเป็นการแสดงจุดยืนที่ไม่เหมาะสมค้านมติมหาเถรสมาคม แต่ก็ยังมีบางวัดที่ยังขึ้นป้ายไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเข้ามาสำรวจวัดภายในอำเภอชะอำ ยังพบมีหลายวัดที่ยังคงขึ้นป้าย เพื่อแสดงจุดยืนไม่รับมติ ที่มีการแต่งตั้งเจ้าคณะอำเภอรูปใหม่ ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ การขึ้นป้ายแบบนี้ อาจจะดูเหมือนว่ามีความขัดแย้งเกิดขึ้น ภายในคณะสงฆ์อำเภอชะอำ แต่คณะสงฆ์ก็ยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งกับเจ้าคณะอำเภอรูปใหม่ และไทยพีบีเอส ยังตรวจพบข้อมูลการแต่งตั้งที่อาจไม่โปร่งใส
คณะสงฆ์อำเภอชะอำ บอกว่า นับตั้งแต่มีการแต่งตั้งเจ้าคณะอำเภอ วัดทั้ง 21 แห่ง ก็ไม่ยอมรับคำสั่งของพระพรหมเวที เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ที่แต่งตั้งให้ พระครูปลัดสุวัฒนพรหมวุฒิคุณ เจ้าอาวาสวัดพลับพลาชัย อ.เมือง จ.เพชรบุรี มาเป็นเจ้าคณะอำเภอชะอำ
เพราะตามขั้นตอนเจ้าคณะจังหวัด จะเป็นผู้สรรหาพระภิกษุในพื้นที่มาปฏิบัติหน้าที่พระสังฆาธิการ หรือเจ้าคณะอำเภอที่ว่างลง ทำให้คณะสงฆ์และชาวบ้านเชื่อว่า การแต่งตั้งครั้งนี้ มีผลประโยช์นเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ไม่มีใครกล้าพูด
พระครูพิพัฒน์วชิรปัญญาวุฒิ เจ้าคณะตำบลหนองศาลา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ในสมัยโบราณเข้าก็ทำมาดี เขาคัดเลือกที่มีคุณภาพที่เหมาะสม แต่มายุคใหม่ทำไม่ถูกต้อง ลึกๆมันก็มีบ้างแหละแต่เราไม่สามารถที่จะพูดได้
ด้านพระครูสุนทรวชิรกิจ เจ้าอาวาสวัดหนองศาลา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ในเมื่อเราก็เห็นเจ้าคณะอำเภอเป็นพ่อ อย่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อองค์ที่ผ่านมา พวกเราก็เห็นท่านเป็นพ่อพวกเรากราบได้ ไหว้ได้ศรัทธาท่าน แต่คนที่จะมาเป็นหลวงพ่อ ตอนนี้ใครก็ไม่รู้ วัยวุฒิคุณวุฒิเป็นอย่างไร ก็ไม่รู้ทั้งๆที่เราน่าจะได้พ่อที่เราศรัทธา
พระนคร วีรพโล ผู้ประสานงานคณะสงฆ์อำเภอชะอำ ตั้งข้อสังเกตว่า พระอำเภอเราไม่มีใครเก่งไม่มีความสามารถเลยหรือ เจ้าคณะตำบลเราก็มี 4 ตำบลเปรียญธรรม มี 3-4-5-6-7-8-9 มีหมด เราก็มีแต่ว่าท่านไม่เห็นความสำคัญพระในเขตชะอำจึงรวมตัวกันขึ้นป้าย
ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ชาวอำเภอชะอำ ไม่มีความศรัทธาต่อเจ้าคณะอำเภอ และขอคว่ำบาตร จนกว่าจะมีการแต่งตั้งเจ้าคณะอำเภอรูปใหม่
เช่นเดียวกับ นายสมใจ น้อยสะอาด ประธานชุมชนห้วยทรายเหนือ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี วิเคราะห์ว่าเงินตัวเดียวเลย ที่จะมีอำนาจแต่งตั้งคนโน้นได้คนนี้ได้ มีให้ฉันไหมเท่านี้เท่านั้น ตามที่หลวงพ่อพูดก็ถูกต้องแล้วข้ามขั้นตอน จึงเสนอให้ปฎิรูปสงฆ์ทั้งหมด และรื้อทิ้งพ.ร.บ.สงฆ์
เส้นทางตำแหน่งพระราคาหลัก 1-10 ล้านบาท
ทีมข่าวไทยพีบีเอส ได้ข้อมูลเชิงลึกจากพระจากพระรูปหนึ่ง ระบุว่าวงการสงฆ์มีการหาผลประโยชน์จากการแต่งตั้งปกครองคณะสงฆ์มานาน ไม่ต่างกับการซื้อขายวงการตำรวจ และเกี่ยวข้องกับตั้งแต่ระดับเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ และจังหวัดโดยเฉพาะวัดที่มีโซนเศรษฐกิจดีด้านการท่องเที่ยว จะมีตั้งแต่หลัก 1 ล้านบาทถึง 10 ล้านบาท และเป็นที่รู้จักกันดี แต่ไม่มีหลักฐานจะเอาผิดได้
" ในความรู้สึกพระในท้องถิ่นของตนประชุมสงฆ์กันอยู่ก็รู้ใจกันอยู่ น่าจะเป็นคนในท้องถิ่น แต่เอาคนต่างถิ่น ที่ไม่เคยรู้ไม่เคยคบหาไม่เคยเห็นเอามาปกครองกันในเขตปกครองก็มีเปรียญ 9 แต่ที่มาต่ำกว่าเปรียญ 9 อีก ทำไมไม่เอา เห็นชัดว่าเขตชะอำนี่ซื้อมา เสียงชาวบ้านพูดกันมา ไม่ใช่ชาวบ้านที่ใส่กางเกง แต่ชาวบ้านพระนี่แหละบอกว่า 4 ล้านบาท"
แม้จะมีกระแสออกมาเป็นระยะว่า มีการซื้อขายตำแหน่งพระสังฆาธิการ หรือตำแหน่งที่มีหน้าที่ปกครองในคณะสงฆ์ชั้นต่างๆ หรือพบความผิดปกติการแต่งตั้งพระสังฆาธิการ แต่ทั้งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ปฎิเสธว่าไม่เป็นความจริง เพราะไม่มีข้อมูลหลักฐานชัดเจน
แต่สิ่งนี้คนในวงการสงฆ์ก็ยังเชื่อว่า มีเงินซ่อนที่ไม่ถูกเปิดเผย เพื่อเอื้อต่อตำแหน่งอยู่จริง ไม่ต่างจากเงินบริจาคทำบุญจำนวนมหาศาล ที่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปตรวจสอบได้อย่างแท้จริง และถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีรัฐบาลชุดไหนที่แก้ปัญหานี้ได้อย่างจริงจัง