วันนี้ (9ส.ค.260)นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ หัวหน้างานบริการวิชาการทางดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ หรือ สดร. กล่าวว่า ในคืนวันที่ 12 ส.ค.นี้ จนถึงรุ่งเช้าวันที่ 13 ส.ค.นี้ จะมีปรากฏการณ์ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ หรือมักเรียกว่า "ฝนดาวตกวันแม่"โดยคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการตกสูงสุดประมาณ 100 ดวงต่อชั่วโมง มีศูนย์กลางการกระจายอยู่บริเวณกลุ่มดาวเพอร์เซอุส บนท้องฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ สังเกตได้ด้วยตาเปล่า แต่เนื่องจากในวันดังกล่าว มีแสงจันทร์รบกวน ประกอบกับประเทศไทยอยู่ในช่วงฤดูฝนอาจทำให้สภาพท้องฟ้าไม่เอื้อต่อการสังเกตการณ์ฝนดาวตกมากนัก
สำหรับฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์เกิดจากเศษฝุ่นละอองที่ดาวหางสวิฟท์-ทัตเทิล (109P/Swift-Tuttle) เหลือทิ้งไว้ในวงโคจรเมื่อ 25 ปีก่อน เมื่อโลกโคจรตัดผ่านเข้าไปในบริเวณที่มีเศษฝุ่นดังกล่าว จะดึงดูดเศษฝุ่นเหล่านี้เข้ามาในชั้นบรรยากาศ เกิดการลุกไหม้ เป็นแสงสว่างวาบบนท้องฟ้า ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์เป็นฝนดาวตกที่มีความสว่างเป็นอันดับ 2 รองจากฝนดาวตกลีโอนิดส์ มีสีสันสวยงาม สามารถสังเกตเห็นได้ในช่วงระหว่างวันที่ 17 ก.ค. - 24 ส.ค.ของทุกปี ประมาณวันที่ 12 - 13 ส.ค.นี้จะเป็นช่วงที่เกิดฝนดาวตกมากที่สุด นายศุภฤกษ์กล่าว
นายศุภฤกษ์ บอกว่า เนื่องจากในช่วงนี้พื้นประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ในช่วงฤดูฝน จึงต้องลุ้นกับสภาพอากาศซึ่งไม่เอื้ออำนวยต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ ยกเว้นบริเวณภาคใต้ตอนล่างซึ่งฝนตกค่อนข้างน้อย จึงนับเป็นโอกาสดีสำหรับของชาวใต้ที่จะได้ชื่นชมความสวยงามของฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ได้ดีกว่าภูมิภาคอื่น
ทั้งนี้สดร. โดยหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จ.สงขลา จัดกิจกรรมเปิดฟ้า..ตามหาดาว ครั้งที่ 2 ชวนชมฝนดาวตกเพอร์เซอิด พร้อมตั้งกล้องโทรทรรศน์ส่องวัตถุท้องฟ้าที่น่าสนใจ อาทิ ดาวเสาร์ ดาวพฤหัสบดี บริเวณศาลาไทย หาดสมิหลา เทศบาลสงขลา จังหวัดสงขลา ในคืนวันที่ 12 ส.ค. ตั้งแต่เวลา 17:00-24:00 น.