องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เรียกร้อง ขสมก.ชี้แจงปลดบัญชีดำให้ "เบสท์ริน" ประมูลรถเมล์เอ็นจีวี

เศรษฐกิจ
18 ส.ค. 60
11:21
259
Logo Thai PBS
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เรียกร้อง ขสมก.ชี้แจงปลดบัญชีดำให้ "เบสท์ริน" ประมูลรถเมล์เอ็นจีวี
รองผู้อำนวยการฯ ขสมก.ระบุว่า บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป มีสิทธิเข้าร่วมการประมูลรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันรอบใหม่ ที่จะมีขึ้นในเดือนกันยายนนี้่ ขณะที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เรียกร้องให้ ขสมก.ชี้แจงการปลดการขึ้นบัญชีดำของบริษัทเบสท์รินต่อสาธารณะ

วันนี้ (18 ส.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก ขสมก.ยกเลิกการขึ้นบัญชีดำ ห้ามบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ร่วมประมูลทุกโครงการของ ขสมก. หลังฝ่ายอนุกฎหมาย ขสมก.พิจารณาเห็นว่าบริษัทเบสท์รินไม่มีเจตนาทิ้งงาน จากการไม่สามารถส่งมอบรถโดยสารประจำทางที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง หรือรถเมล์เอ็นจีวี พร้อมซ่อมแซม 489 คัน ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีอ็อกชั่นครั้งที่แล้วได้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องภาษีนำเข้า

นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา องค์กรฯ ได้ส่งผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมตรวจสอบโครงการตามข้อตกลงคุณธรรม แต่ไม่พบความผิดปกติในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างการประมูลครั้งก่อน โดยเฉพาะทีโออาร์ที่มีการแก้ไขหลายครั้ง ขณะที่การปลดบัญชีดำบริษัทเบสท์ริน องค์กรฯ ต้องการให้ ขสมก.มีการชี้แจงถึงสาเหตุการปลดบัญชีดำ

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหาก พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างรอบใหม่ที่จะมีการประกาศออกมาใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ เชื่อว่าจะช่วยให้การจัดซื้อจัดจ้างในอนาคตมีมาตรฐาน แตกต่างจากที่ผ่านมาที่รัฐวิสาหกิจสามารถปลดบัญชีดำได้

ขณะที่นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการ ฝ่ายการเดินรถ ขสมก.กล่าวว่า ขสมก.ยกเลิกการขึ้นบัญชีดำห้ามบริษัทเบสท์รินร่วมประมูลทุกโครงการของ ขสมก.แล้ว เนื่องจากฝ่ายอนุกฎหมายของบอร์ดพิจารณาเห็นว่าบริษัทไม่มีเจตนาทิ้งงาน ขณะที่ความคืบหน้าโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ตั้งแต่วันที่ 7-11 สิงหาคมที่ผ่านมา ขสมก.ได้เปิดขายซองประกวดราคารถเมล์เอ็นจีวีไปแล้วโดยมีเอกชนสนใจ 3 ราย ประกอบด้วยบริษัท ไทย เทคโนโลยี แอนด์เดเวลอปเมนท์ จำกัด, กิจการร่วมค้าเจวีซีซี ช.ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลครั้งก่อน

ทั้งนี้ ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ จะมีการประชุมบอร์ด ขสมก. เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ซึ่งการยื่นซองจะหมดเขตในวันที่ 24 สิงหาคม และจะเคาะราคาอีอ็อกชั่นวันที่ 8 กันยายนนี้ เมื่อได้ผู้ชนะประมูลและลงนามสัญญาปลายเดือนกันยายนนี้ จากนั้นจะต้องส่งมอบรถภายใน 90 วัน คาดว่าในช่วงปลายปีนี้ หรือตั้งแต่เดือนธันวาคม จะมีรถเมล์ล็อตใหม่วิ่งให้บริการประชาชน ขณะที่การประมูลครั้งนี้ใช้ราคากลาง 3,387 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่บริษัทเบสท์รินเคยชนะประมูล

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง